10 เรื่องผีชวนขนหัวลุกในโรงพยาบาล

ขึ้นชื่อว่าโรงพยาบาลแล้ว ถือเป็นสถานที่ที่มีคนตายมากที่สุด และแน่นอนว่าพอมีคนตายก็ย่อมต้องมีวิญญาณ มีผี ซึ่งในวันนี้ทางเราก็ได้รวบรวมเอา 10 เรื่องผี เรื่องหลอนทั้งหลายที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล มาให้ทุกคนได้ขนหัวลุกไปพร้อม ๆ กัน! อันดับที่ 10. นักศึกษาแพทย์โดนดี! ทุกคนคงจะรู้ดีว่ากว่าจะได้มาเป็นหมอนั้น นักศึกษาแพทย์ทุกคนต้องผ่านการเข้าเวรดึกกันมาแล้วทั้งนั้น… เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม นักศึกษาแพทย์ชายคนหนึ่งกำลังจะเดินเปลี่ยนวอร์ด บรรยากาศตามทางเดินไปยังลิฟต์ก็เงียบสงัด ไม่มีแม้กระทั่งคนอยู่แถวนั้น แต่จู่ ๆ พอเงยหน้าขึ้นมาไปยังทางเดินก็พบกับชายใส่ชุดสีกากี เขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่พอเดินใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ เขากลับรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว พอมองไปที่ชายคนนั้นก็สังเกตเห็นว่าทั้งแขน ทั้งไหล รวมถึงขา ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย! จนเมื่อเดินสวนกันถึงได้เห็นว่าชายคนนั้นไม่มีขาและกำลังลอยอยู่กลางอากาศ! พอเห็นอย่างนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ โดยก่อนลิฟต์จะปิดชายชุดกากีคนนั้นก็หันหน้ามาและแสยะยิ้มให้ อันดับที่ 9. ผีหัวขาด ณ ห้องน้ำ เรื่องนี้เคยเป็นข่าวที่ทำเอาคนอยุธยาไม่กล้าไปโรงพยาบาลกันพักใหญ่ เพราะใคร ๆ ก็พากันพูดถึงผีหัวขาดกันทั้งนั้น เรื่องมีอยู่ว่า ชาวบ้านคนหนึ่งได้ไปเฝ้าพี่สาวที่โรงพยาบาล ซึ่งได้พักอยู่ที่ห้องผู้ป่วยรวม ทำให้ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน จากที่สังเกตก็ไม่ได้มีญาติคนไข้ที่เป็นผู้ชายเลย จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม […]

เรื่องเล่าของคุณย่า ประสบการณ์ขนหัวลุก

เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นประสบการณ์ตรงที่คุณย่าได้พบเจอมาแล้วก็นำมาถ่ายทอดให้กับจ๊ะจ๋าได้ฟัง เหตุการณ์ทั้งหมดต้องขอย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยคุณย่านั้นยังมีอายุเพียงแค่ 15 ปี วันนั้นมีงานเทศกาลที่ต่างอำเภอ คุณย่าของจ๊ะจ๋านั้นชื่อว่า น้อย แล้วก็มีพี่สาวคุณย่าชื่อว่า นาง ทั้งสองคนนั้นก็ได้นัดกันกับเพื่อนๆ อีกประมาณ 9 คน กะว่าจะไปเที่ยวงานด้วยกัน ในสมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ มีเพียงแค่เกวียน บ้านไหนมีเกวียนก็ถือว่าหรูแล้ว ส่วนมากไปไหนมาไหนชาวบ้านก็มักจะใช้การเดินเอา คุณย่าอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ 5 โมงเย็น นั่งรอเพื่อนๆ มารับ พอเพื่อนทุกคนมาพร้อมหน้ากันก็ออกเดินทาง ในมือนั้นถือตะเกียงกันไปคนละอัน แต่ไม่ได้จุดเนื่องจากว่าเป็นคืนเดือนหงายที่สามารถมองเห็นทางได้ชัดเจน ส่วนตะเกียงแค่เอาไปกันไว้เฉยๆ  ระยะทางจากบ้านของย่าไปถึงหมู่บ้านงานนั้นห่างกันราว 10 กิโลเมตร ก็เลยมีหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มเสนอว่า ไปทางลัดกันดีกว่า ทางลัดเดินแค่ประมาณ 7 กิโลเอง ทุกคนในกลุ่มก็ตกลงแล้วก็พากันเดินลัดทุ่งไป เดินกันไปคุยกันไปจนฟ้านั้นเริ่มจะมืดลง ย่าก็บอกว่าน่าจะใกล้ถึงงานแล้ว แต่ว่าพี่สาวของย่าที่ชื่อว่าย่านางนั้นเผอิญเกิดปวดท้องเบาขึ้นมาก็เลยชวนย่าไปเป็นเพื่อน ก่อนที่จะแยกไปนั้นแฟนของย่านางก็ได้แซว 2 สาวว่า ไปกันสองคนระวังผีหลอกนะ แต่ย่ากับพี่สาวของย่าก็ไม่ได้สนใจ รีบเดินไปทำธุระส่วนตัว พอทำธุระเสร็จย่าก็พากันเดินออกมา แฟนของย่านางก็มาแอบอยู่หลังต้นไม้ พอทั้งคู่เดินมาถึง แฟนของย่านางก็กระโจนออกมาหลอก คุณย่าทั้งสองเห็นเข้าก็ตกใจนึกว่าผี เพื่อนทุกคนที่ยืนรออยู่นั้นได้ยินเสียงร้องกรี๊ดจากย่าทั้งสองก็รีบวิ่งมาดู พอย่านางเห็นว่าคนที่แกล้งนั้นเป็นแฟนตัวเองก็เลยดุเอาว่า กลางคืนทำแบบนี้มันไม่ดี คนเฒ่าคนแก่เข้าถือ พูดจบยังไม่ทันที่ทุกคนในกลุ่มจะก้าวเท้าเดินทางต่อ […]

เสียงอุบาทว์ เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุคืออพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง คุณเอก ได้อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ เนื่องจากถูกบริษัทส่งมาทำงานที่ประเทศฮ่องกงเป็นเวลา 2 ปี อพาร์ทเม้นท์ที่เอกอาศัยนั้นตัวตึกใหญ่พอสมควร แต่ว่าห้องพักแต่ละห้องถูกซอยออกเป็นห้องเล็ก ๆ เวลาเปิดประตูหน้าห้องออกไปจะเป็นโถงทางเดินซึ่งทอดยาวไปจนถึงลิฟต์ โดยโถงทางเดินนี้จะผ่านทุกห้องบนชั้นนั้น ช่วงที่เอกย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ทุกอย่างก็ปกติดี วันเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 เดือน เอกก็ถูกบริษัทเรียกตัวกลับไปที่เมืองไทยอยู่หลายสัปดาห์ แล้วก็ต้องกลับมาที่นี่ใหม่ เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดขึ้นหลังจากที่กลับมาอยู่รอบที่ 2 นี้ล่ะครับ วันนั้นหลังจากเอกเดินทางจากกรุงเทพมาถึงฮ่องกงเป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว วันนั้นเอกรู้สึกเพลียมาก ๆ พอเดินทางมาถึงที่พักก็หลับเป็นตๅยในทันที คืนนั้นเอกต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่เดินกลับมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงเหมือนมีใครกำลังวิ่งอยู่ที่โถงทางเดินนอกห้อง เอกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก คิดว่าอาจจะเป็นพวกวัยรุ่นวิ่งเล่นกันหลังจากกลับมาจากเที่ยว จึงตัดสินใจเดินกลับไปนอนต่อ แต่ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มยังไม่หลับดีนั้น เอกก็ยังคงได้ยินเสียงวิ่งบนโถงทางเดินอยู่ตลอดเวลา วิ่งแบบกลับไปกลับมา พอนอนฟังนาน ๆ เข้าก็เริ่มชักจะหงุดหงิด แต่เนื่องจากความเพลียที่มีมากกว่าจึงผล็อยหลับไป ตื่นมาตอนเช้า วันนั้นเป็นวันหยุด เอกก็เลยเดินจากที่พักของตัวเองออกไปหาซื้อของเข้าห้อง หลังจากกลับเข้ามาก็เป็นเวลาทุ่มเศษ ๆ เอกเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในอพาร์ทเม้นท์ชั้นที่เขาอาศัยอยู่ นั่นคือมันเงียบ เงียบมากกว่าทุกครั้ง หรืออย่างน้อยก็เงียบมากกว่าตอนที่เอกจะกลับไปเมืองไทยแล้วกลับมาใหม่ เอกเริ่มสังเกตได้ว่าชั้นที่เขาพักอาศัยอยู่นั้นหลาย ๆ ห้องไม่ได้เปิดไฟ ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากเก็บของในห้องเสร็จก็เลยเดินลงมาชั้นล่าง […]

ใช่ยายของฉันแน่เหรอ! เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกนะคะ และคาดว่าน่าจะเป็นกระทู้เดียวของเรา จริงๆ เรื่องที่จะเอามาเล่ามันผ่านมานานแล้วประมาณ 7 ปีได้แล้ว เป็นเรื่องที่อาจจะสยองและน่ากลัวมากๆ สำหรับเรา หรืออาจจะเฉยๆ สำหรับใครหลายๆ คน เราคิดว่าน่าจะมีเรื่องที่คล้ายๆ กับที่เรากำลังจะเล่าเยอะมาก เพราะเราก็เคยอ่านมาหลายกระทู้แล้วเหมือนกัน เราเลยคิดว่าจะลองเล่าเรื่องของยายเราให้ฟังกันบ้างดีกว่า เรื่องมันมีอยู่ว่า ประมาณ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.5 เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ โตมาแบบบ้านๆ เรื่องผีๆ สางๆ นี่รับรู้มาตั้งแต่จำความได้ ตามักจะย้ำเสมอว่า เฮ้ย! ผีมันมีอยู่จริงๆ นะโว้ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ ค่ะ หนูทราบค่ะ โดนเป่าหูมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต ตาก็ขยันเล่าเรื่องผีๆ ที่เจอมากับตัวให้ฟัง เล่าไปนี่ก็กลัวไปด้วยไง เวลาเดินกลับบ้านตอนค่ำๆ ก็วิ่งอย่างเดียวค่ะ ไม่มีมาสโลว์ไลฟ์ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนหรอกค่ะ เราเชื่อว่าผีอยู่รอบๆ ตัวเรา ถามว่ากลัวมั้ย บอกเลยว่า มากกกกก! แล้วเรื่องของเรื่องมันคือช่วงที่ยายของเราป่วยค่ะ เจ็บออดๆ แอดๆ ตามประสาของคนแก่ ยายเราตอนนั้นอายุ 86 ปี ยายมีโรคประจำตัวค่ะตามประสาคนแก่ แล้วก็ตามกรรมพันธุ์ค่ะ […]

ขอบใจขนาด เรื่องลี้ลับตอนเดินป่า จ.ตาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ซึ่งเป็นดอยที่เดินยาก มีระยะทางไกลและก็ชันเป็นระดับต้นๆ ของประเทศ คนเดินป่าอาจจะรู้จักในฉายาภูเขาสีทองของจังหวัดตาก เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนปลายปีที่แล้ว โดยปกติแล้ว คุณเคเป็นคนที่ชอบเดินป่า แล้วดอยที่เกิดเหตุแห่งนี้ คุณเคก็เคยเดินขึ้นมาแล้ว แต่ว่าครั้งแรก คุณเคไม่ได้ตื่นขึ้นมาดูทะเลหมอกตอนเช้า จึงได้กลับมายังที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะออกเดินทาง คุณเคก็ได้ออกปากชวนเพื่อนๆ ที่เคยเดินป่าด้วยกัน แต่ว่าไม่มีเพื่อนคนไหน สามารถไปด้วยได้เลย เนื่องจากครั้งนี้ คุณเคออกเดินทางในวันธรรมดา เพื่อนๆ นั้นลางานไม่ได้ คุณเคตั้งใจเอาไว้ว่าจะเดินทางตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุทธ ช่วงใกล้ๆ กับวันออกพรรษา ด้วยความที่คุณเคนั้นเป็นคนชอบเดินป่ามาก ประจวบเหมาะกับงานที่ทำมาก็เหน็ดเหนื่อย และได้วันหยุดในวันธรรมดา จึงตัดสินใจเดินทางเพียงลำพังคนเดียว ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ คุณเคก็นั่งรถตู้เข้ากรุงเทพ แล้วก็ต่อรถไปยังจังหวัดตากเพื่อเดินป่า คุณเคถึงจังหวัดตากช่วงเช้ามืดวันจันทร์ ประมาณสักตีสี่กว่าๆ หลังจากนั้นก็มองหารถเพื่อที่จะเหมาไปที่ อบต. ติดต่อเพื่อขอเช่ารถ เพื่อไปส่งที่ตีนเขา และก็รวมไปถึงลูกหาบ ที่จะเอาไว้ช่วยขนของอีกด้วย ในระหว่างที่กำลังมองหารถอยู่นั้น ก็มีพ่อค้าคนหนึ่ง ขับรถกระบะมาจอดเทียบ แล้วก็ถามกับคุณเคว่า จะไปไหนเหรอน้อง คุณเคตอบกลับไป จะไป อบต. เพื่อไปขึ้นดอยครับพี่ พ่อค้าได้ยินแบบนั้นก็พูดว่า ไปกับพี่ก็ได้น้อง พี่จะไปทำบุญที่บ้านพอดี อยู่ไม่ห่างกัน เดี๋ยวแวะส่งให้ถึงตีนเขาเลย คุณเคได้ยินแบบนั้นก็นึกดีใจที่จะได้ไม่ต้องเสียค่ารถ […]

จุ๊..จุ๊..จุ๊.. ประสบการณ์ขนหัวลุก นางรำใต้ต้นโพธิ์

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปีผมได้ทำการย้ายบ้านเพราะว่าได้งานใหม่มา เนื่องจากเป็นงานประจำที่ต้องเข้างานอยู่บ่อยๆ เมื่อเค้าเรียกก็ต้องเข้าบริษัทให้ทัน ผมเลยไปได้บ้านใหม่หลังหนึ่งที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ผมก็ย้ายเข้ามาอยู่กับแฟนสองคนครับ เข้ามาวันแรกก็ช่วยกันจัดแจงข้าวของกันให้อยู่เป็นที่ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้วครับ เราเลยออกไปหาอะไรกินกัน ระหว่างทางออกไปหาอะไรกินเราก็ต้องผ่านวัดๆ หนึ่งก่อนขอไม่บอกชื่อวัดนะครับ ต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า บ้านที่เราอยู่กันนี้อยู่ติดคลองแต่มีถนนขั้นอยู่กับคลองนะครับ ข้างวัดนี้ตอนกลางวันก็พอมีร้านขายของอะไรอยู่บ้าง แต่ตอนกลางคืนก็พากันปิดไปหมดแล้ว ทำให้เราต้องไปหาอะไรกินกันตามร้านข้าวข้างถนนครับ เราก็ออกกันมาได้ซักพักหนึ่งเลยที่ว่าการอำเภอมาก็เจอร้านบะหมี่เราก็เลยแวะกินกันครับ หลังจากกินเสร็จเราก็พากันกลับบ้าน ก่อนที่ผมจะย้ายเข้ามาอยู่ในซอยนี้ ผมได้ยินประวัติคร่าวๆ จากร้านก๋วยเตี๋ยวข้างวัดของซอยนี้อยู่ว่า มีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่รถยนต์คันหนึ่งกำลังขับรถกลับบ้าน เค้าก็สังเกตเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับตามเค้ามาจากข้างหลังด้วยความเร็วมาก หลังจากนั้นมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็เร่งแซงรถของเค้าไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะเบรกแต่อย่างใด ทีนี้เค้าก็เห็นว่าทางด้านหน้าของเค้านั้นเป็นโค้งเค้าจึงเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ขับทะลุโค้งนั้นหายไป ส่วนใหญ่คนที่ขับรถในซอยนี้ตอนกลางคืนจะเจอกันเยอะ แต่เนื่องจากผมเป็นคนไม่กลัวผี ผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่าผมก็แค่มาอาศัยอยู่แถวนี้เฉยๆ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ขับผ่านไปแถวบริเวณที่เค้าเจอกันอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดอะไร อยู่กันไปซักประมาณสามเดือนพ่อของเพื่อนแม่ของผมก็เสียครับ มารู้ว่าเค้าจะทำการจัดงานศพกันที่วัดใกล้ๆ บ้านผมพอดี ผมเลยบอกให้แม่มานอนกับผมก่อนก็ได้เพราะว่าบ้านผมอยู่ใกล้วัดจะได้ไปงานสวดพระอภิธรรมได้สะดวกๆ หลังจากนั้นแม่ก็เก็บข้าวของเดินทางมาอยู่กับผมครับ สลับกับแฟนของผมที่ต้องกลับบ้านไปหาแม่ของเค้าครับ พอถึงวันสวดวันแรกผมก็พาแม่ไปที่วัด แต่ผมแค่พาแกไปส่งเฉยๆ หลังจากส่งเสร็จผมก็รอแกอยู่แถวบริเวณวัดนั่นแหละครับ เพราะว่าผมรู้สึกว่าผมไม่ถูกกับงานศพ เวลาเข้าร่วมงานศพเหมือนจะเจอเรื่องไม่ดีทุกที ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หรือเป็นงานศพใครที่สนิทจริงๆ ผมจะขอตัวไม่เข้าไปร่วมงานเลย งานก็ล่วงเลยผ่านไปจนถึงวันที่สามครับ ผมก็ไปส่งแม่ที่งานศพตามปกติ หลังจากนั้นผมก็แยกตัวออกมาจากบริเวณงานศพ และด้วยความที่ไม่มีอะไรทำผมก็เลยโทรไปคุยกับแฟนเล่นๆ ครับระหว่างรอแม่ ผมก็เดินไปคุยไปจนเดินไปถึงใต้ต้นโพธิ์กลางลานวัด เราก็คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยหัวเราะคิกคักๆ หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียง จุ๊..จุ๊..จุ๊..!!! (เสียงเหมือนเอานิ้วชี้มาไว้ที่ปากแล้วทำปากจู๋เวลาผู้ใหญ่ทำกับเด็กเวลาเสียงดังน่ะครับ) […]

ทางสายเปลี่ยว ถนนเส้นอ่าวลึก จังหวัดกระบี่

เมื่อประมาณปี พ.ศ.2554 ช่วงนั้นเราได้มีโอกาสทำงานเป็นเซลล์ให้กับบริษัทหนึ่ง เป็นบริษัทนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ช่วงนั้นเรารู้จักคนขับรถเยอะมาก เพราะว่าเป็นหน่วยงานเดียวกัน จึงต้องพบปะพูดคุยกันอยู่เสมอ คนหนึ่งในนั้นคือ พี่นุ แกเป็นพนักงานขับรถร่วมให้กับบริษัททรานสปอร์ตแห่งหนึ่ง ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนนเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ทุกสองสามวัน พี่นุจะต้องมาขึ้นสินค้าที่คลังสินค้าแห่งนี้เสมอ สบโอกาสเหมาะๆ ก็จะได้เจอแก และพูดคุยกันสนุกสนานเฮฮาตามประสาคนรู้จักกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่นุแกหายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์ ไม่ปรากฏว่าเห็นแกมาขึ้นงาน ไอ้เราก็แปลกใจอยู่เพราะปกติก็จะเจอแกอยู่เสมอ เช้าตรู่ของอีกวัน เราเพิ่งเคลียร์บิลลูกค้าเสร็จ เราก็เห็นพี่นุแกยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าออฟฟิศ อ้าวเฮีย! หายไปไหนมาเนี่ยหลายวันเชียว ไปติดใจสาวที่ไหนเข้า งานการไม่มาทำเลยนะ เราก็แซวแกไปเรื่อยตามประสาคนพูดมาก คิดว่าแกคงจะตอบแบบทะลึ่งตึงตังตามนิสัยขี้เล่นของแก แต่ครั้งนี้แกไม่ขำ แกทำหน้าตาขึงขังก่อนจะบอกว่า พี่มาส่งใบลา จะขอหยุดวิ่งงานซักสองถึงสามเที่ยว ว่าจะไปทำบุญน่ะ ช่วงนี้ซวยใหญ่ ไอ้เราก็อยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว ก็เลยถามแกไปว่า แล้วมันเรื่องอะไรล่ะพี่ เล่าให้ฟังหน่อยสิ แกก็เลยว่า ไป๊! ไปนั่งร้านเจ๊แอ๋ว เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง เรื่องมันยาว อีกครู่ใหญ่ๆ เรากับพี่นุ ก็พากันมานั่งร้านตามสั่งเจ๊แอ๋วเจ้าประจำ ก่อนจะสั่งโอเลี้ยงมากินกันคนละแก้ว นี่จำได้ไหมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่พี่ขึ้นงานไปภูเก็ตน่ะ อ๋อ […]

30 ปีผีอๅฆาต เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน คุณตูนทำงานขับรถทัวร์ให้กับบริษัทอู่รถแห่งหนึ่งที่หาดใหญ่ หลังจากที่รับวิ่งงานต่อเนื่องกันมานาน รถที่ขับประจำก็ได้เวลาเข้าศูนย์ตรวจเช็คระยะและซ่อมบำรุง คุณตูนได้ถูกพี่วิทย์ ลูกพี่ที่รู้จักกันโทรศัพท์มาชวนให้มาช่วยขับรถพาเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ขึ้นมาทัศนศึกษา ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแต่ด้วยความที่เป็นศิษย์สอนขับรถกันมา คุณตูนจึงตอบรับคำชวนและได้พาเจ้าเบลล์ เด็กรถของตัวเองติดรถมาช่วยด้วยอีกแรง โดยคุณตูนรับหน้าที่ขับรถช่วงกลางคืนที่ต้องวิ่งข้ามจังหวัด ส่วนพี่วิทย์จะทำทัวร์และขับช่วงกลางวัน เมื่อคุณตูนขับรถขาขึ้นจากใต้ มาถึงป้อมตำรวจชุมชนช่วง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลากลางดึกก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา แต่ขณะนั้นเกิดฝนตกหนัก คุณตูนจึงได้รีบจอด ณ จุดนั้นเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่ก็ได้สังเกตเห็นพระธุดงค์รูปหนึ่งยืนหลบฝนอยู่ คุณตูนจึงได้พูดคุยและนิมนต์เชิญให้ติดรถมาด้วย พระท่านจึงขอติดรถคุณตูนมาลงยังจุดที่พอพ้นฝนก็พอ ตลอดเส้นทางก็ได้มีการพูดคุยกัน คุณตูนสังเกตว่า หลวงพี่รูปนี้เป็นพระที่น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก ทราบชื่อสั้น ๆ ว่าหลวงพี่จ๊ะ เมื่อขับมาถึงจุดพักรถที่ จ.ชุมพร ก็ได้จอดแวะพักและหลวงพี่จ๊ะก็ขอลงเพื่อธุดงค์ต่อ แต่ก่อนจากไปท่านได้พูดคุยสั่งสอน พี่วิทย์ ลูกพี่ของคุณตูนอยู่นานเรื่องเวรกรรม และได้ยื่นขวดน้ำให้กับพี่วิทย์เพื่อให้ล้างหน้า เพื่อชำระล้างสิ่งที่ไม่ดี คณะของคุณตูนก็ได้เดินทางต่อ เพื่อท่องเที่ยวสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี และได้มาหยุดพักค้างคืนที่กรุงเทพ โดยคุณตูนและลูกพี่ได้หยุดพัก 2 คืน เนื่องจากคณะทัวร์ได้เช่ารถตู้ไปเที่ยวกันต่อ คืนที่สองของการพัก คุณตูนถูกสต๊าฟทัวร์ชักชวนให้ดื่มสุรๅ เนื่องจากคิดว่าวันรุ่งขึ้นยังพักอยู่ คุณตูนก็ได้ดื่มไปเล็กน้อย สักพักพี่วิทย์ก็ได้เดินมาหาและบอกว่า มีรถของที่อู่เดียวกันหม้อน้ำแตกที่ อ.แกลง […]

เรื่องเล่าของจ่าทหารเรือ กระทู้ผีพันทิป

ผมเคยเป็นทหารเรือ สังกัดกองบัญชาการนาวิกโยธิน ฟังดูเท่ห์ล่ะสิ โอโห้ ทหารเรือ น.ย. หน่วยรบนะนี่ รบกับผีน่ะสิ ไม่ได้ยิงอะไรสักแปะ วันๆ ถือปืนเอาแต่ยืนยามเฝ้าหน้าบล็อกทางเข้าฐานทัพ คอยตะเบ๊ะและตรวจรถที่เข้าออก ว่างๆ ก็เดินตัดหญ้าริมถนนพุ่งหลัง วิดพื้น แบกโลก บางทีก็เอามือไพล่หลัง ปักหัวลงดิน เอาให้เหนื่อยกันไปข้างนึง จนบางทีโดนสั่งทำโทษ จนอยากจะลุกขึ้นมาไล่เตะปากจ่าๆ ที่สั่งนักสั่งหนา เหนื่อยนะเว้ย แต่ก็ได้ลาบานูน (คิดในใจ) ก็ทนๆ กันไป เพราะเราเป็นทหาร ต้องมีระเบียบวินัย เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา เนอะ.. ตอนนั้นหลังจากฝึกเสร็จที่ชลบุรี ฐานทัพใหญ่ของกองทักเรือ ผมก็โดนส่งลงมาประจำการที่ฐานทัพเรือพังงา ข้างบ้านทับละมุ  ทหารหน้ามนคนจนชาวเหนือที่มาใช้ชีวิตอยู่ปักษ์ใต้น๊านนาน จนคำพูดติดทองแดง พูดเหนือปนปักษ์ใต้จนกลายเป็นคนแปลกๆ เพราะคุยกับญาติๆ ทางเหนือเค้าก็บอกอู้อ๊ะหยังฟังบ่าฮู้เรื่อง คุยกับคนใต้เค้าก็บอก แหลงภาษาไอ่ไหร๊ว๊า แล้วก็หัวเราะบอกทองแดงหล่นแล้วเดรพี่บ่าว กระผ๊ม พลทหารขอรายงานตัวครับ ยิ้มมาเลยนะตอนต้อนรับ เจอกันครั้งแรก เราก็อุ้ย จ่าที่ฐานทัพเรือพังงาน่าจะใจดีกว่าจ่าที่ชลบุรีแฮะ แบบนี้เดี๊ยน เอ้ย ผมปลื้ม พอหลังจากวันแรกเท่านั้แหละ เสียงตะคอก คว่ำหน้าลงไป […]

เสือผีจากแดนกะเหรี่ยง เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า ผมเป็นคนสุราษฎร์ธานีแต่กำเนิด พ่อสุราษฯ แต่แม่ผมเป็นคนพะเยา เรื่องที่ผมจะเล่า มันเป็นเรื่องที่ยายของผมเล่าให้ผมฟังโดยตรง เรื่องมันเกิดในสมัยที่ยายผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ สมัยก่อนนั้น ทางภาคเหนือถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีป่าเขาที่สมบูรณ์ เมื่อก่อนถ้าไม่ทำไร่ทำนาปลูกข้าว ก็ต้องเข้าป่าล่าสัตว์เพื่อเอามาใช้แลกเปลี่ยนหรือนำไปขายแลกเงิน และนั่นก็เป็นเรื่องของยุคสมัยที่ไฟฟ้ายังไม่เข้าถึงเลยสักหมู่บ้าน แม้แต่บ้านยายผมเองถึงจะอยู่ใน อ.เมืองของพะเยา แต่ใช่ว่าจะเจริญอะไรมากนัก ยายผมเล่าว่า เวลาพ่อของยาย (ตาทวดผม) ขึ้นเขาเข้าป่าไปล่าสัตว์ ไปครั้งนึงก็สองถึงสามเดือนอย่างต่ำ เลยทำให้ยายของผมคลุกคลีกับเรื่องป่าเขาพอสมควร ตอนปี พ.ศ.2486 เป็นครั้งที่ตาทวดผมไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต มันเป็นครั้งสุดท้ายของการล่าสัตว์ในป่าลึกของท่าน กับประสบการณ์ลี้ลับของคณะเดินทางที่ต้องผจญกับเสือผีจากป่าแดนกะเหรี่ยง ตอนนั้นยายทวดผมกำลังไม่สบาย ทำนาไม่ได้ เลยขัดสนเรื่องเงินที่จะใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะบ้านแม่ผมจนครับ ตาทวดผมเลยต้องเข้าป่า เพื่อไปล่าเขากวาง งาช้าง และของหายากในป่าเพื่อเอามาขายคนเมืองกรุง เลยชวนพรรคพวกที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ชวนกันเดินทางไกลไปเขาภูซาง ซึ่งมีอาณาเขตติดกับเชียงราย-สปป.ลาว แต่ถึงตาทวดผมจะเคยเข้าป่าล่าสัตว์มาเยอะพอสมควร แต่การเดินทางครั้งนี้มีพรานไปกับแกด้วย หลังจากเตรียมอาหาร ข้าวเหนียว เนื้อแห้ง ปลาแห้ง เสร็จสรรพ ก็ออกเดินทางกันบ่ายวันนั้นเลย ใช้เวลาเกือบสามอาทิตย์กับระยะทางเกือบร้อยกิโลจากบ้าน กว่าจะเดินทางไปถึง เนื่องจากพรานมาด้วยทุกคนก็ทำตามที่พรานแนะนำทุกอย่าง ทุกคนก็จัดแจงอุปกรณ์ ตัดไม้ไผ่มาทำห้างและทำกระบอกไม้ไผ่เอาไว้เยี่ยว เพราะตอนขึ้นห้างแล้ว ห้ามลงมาเด็ดขาดจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นถึงจะลงได้ เนื่องจากมากันหกคน เลยทำห้างไว้สองที่ บนต้นไม้ใหญ่สองต้น […]