เมื่อไม่นานมานี้ เรามีโอกาสได้อ่านดวงจากนักพยากรณ์ท่านหนึ่ง ว่าด้วยเรื่อง ราศีไหนกำลังจะโดนคุณไสย โดนคนทำของไม่ดีใส่ เจออะไรค่ำ ๆ มืด ๆ ห้ามทัก พออ่านจบ อ้าวนี่มันราศีเรานี่นา เเต่ตอนนั้นก็คิดว่ามันคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เเต่ลึก ๆ แล้วก็บอกตัวเองว่า ระวังไว้หน่อยก็ดี
จนเวลาผ่านไปอาทิตย์กว่า วันนั้นเป็นช่วงบ่าย เราสังเกตุเห็นเงาคล้ายคนวิ่งไปวิ่งมาที่หน้าบ้าน ตอนนั้นเราลืมนึกเรื่องที่อ่านดวงไปเสียสนิท เราเลยตะโกนถามออกไป นั่นใครน่ะ แล้วเงานั้นก็หายไป จนตกค่ำเราได้กลิ่นเหม็นเน่าจากหน้าบ้าน กลิ่นเเรงมาก แต่แปลกที่คนในบ้านกลับไม่มีใครได้กลิ่นเลย กลิ่นแรงจนเวียนหัว จนเราเผลอสบถขึ้นมาว่า
กลิ่นเ_ี้ยอะไรวะเนี่ย อะไรตายวะ!
พอเราพูดจบ แม่หันมาตีเเขน มันดึกมันดื่นจะพูดทำไม? เราเลยบอกแม่ว่ามันเหม็น จนสุดท้ายเราก็หนีขึ้นไปนอน
คืนนั้นเวลาประมาณตี 2 เราสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ เรียกอยู่นานมาก เสียงนั้นเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก เเต่เราก็ไม่ขานรับ ได้เเต่นอนกอดหมอนข้างข่มใจไว้ด้วยความกลัว
จนถึงช่วงเช้ามืด เราได้ยินเสียงเเม่เอะอะโวยวายลั่นบ้าน ตะโกนถามคนในบ้าน ปลุกจนตื่นหมดทุกคน ญาติข้าง ๆ บ้านก็ตกใจตื่น กำลังจะวิ่งมาที่บ้าน แต่ต้องชะงักเพราะตรงหน้าบ้านมีกองผงถ่านสีเทา ๆ ดำ ๆ อยู่หนึ่งกอง พร้อมกับเหรียญดำ ๆ ที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าด้ายดิบ
เเม่ถามว่าใครมาทำอะไรพิเรนทร์เเบบนี้ ทุกคนในบ้านส่ายหน้า จนมาถึงเรา เราเล่าให้เเม่ฟังว่าเมื่อคืนมีคนมาเรียกเเต่ไม่ขานรับเพราะกลัวมาก จนญาติข้างบ้าน ๆ บอกว่ารีบอาบน้ำเเล้วไปวัดเร็ว ๆ เดี๋ยวทางนี้เเกจะเอาเเมวดำมาปล่อยให้มันอยู่ในบ้านให้
ญาติคนนี้เขามีวิชาที่ได้จากปู่มานิดหน่อย เเต่ท่านรู้ว่ามันหมายความว่ายังไง ถึงสั่งให้เรารีบขนาดนััน ปกติเเล้วเราจะพกพระติดตัวไปด้วย แต่ด้วยความรีบวันนั้นจึงไม่ได้พกไป เมื่อก้าวขาพ้นเขตหน้าประตูบ้าน และเดินผ่านกองผงสีดำ ๆ นั้น เราความรู้สึกเจ็บจี๊ดวิ่งจากปลายเท้าขึ้นมาจนก้าวขาไม่ออก ได้เเต่ร้องเรียกแม่ ๆ แม่ก็ตะโกนบอกญาติ ๆ ที่เหลือบอกว่า เเบกมันไปเลย!
ระยะทางจากบ้านไปถึงวัด มันไม่ไกลนะคะ แต่วินาทีนั้นมันรู้สึกไกลมาก ความเจ็บปวด ปวดเเสบปวดร้อน มันทรมานมาก ๆ พอถึงหน้ากุฏิเจ้าอาวาส หลวงพ่อท่านก็ออกมาพอดี ท่านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า
มากันเเล้วเหรอ ไปทำกรวยกับหมากคำใบพลูมา ส่วนโยมญาติพยุงคนป่วยไปตรงลานกว้างข้างโอ่งน้ำมนต์นะ
เวลานั้นไม่มีเวลาสงสัยอะไรเพราะรู้สึกเจ็บปวดอย่างเดียว พอถึงตรงลานหลวงพ่อก็สาดน้ำมาโครมใหญ่ เราก็สลบไป พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เห็นเเม่ร้องไห้ เห็นญาติ ๆ ร้องไห้ แล้วหลวงพ่อก็ถามใช่โยมไหม เราก็ถามว่า ทำไมหนูหายปวดเเล้วล่ะ เกิดอะไรขึ้น เท่านั้นเเหละ เเม่โผมากอดคนเเรก เเล้วพูดว่า
ทำไมไม่บอกว่าเขาเเช่งมึงไว้ทำไมไม่พูด!
เราไม่ทันได้ถามอะไรต่อ หลวงพ่อท่านก็บอกว่า พากันกลับบ้านซะนะ แล้วจำไว้ว่าใครเเช่งให้นิ่งเฉยเก็บความร้อนไว้ในใจ อย่าเเสดงออกมา เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เรากำลังตอบโต้อยู่เขาเป็นคนยังไง
พอกลับมาถึงบ้านเเม่ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนที่เราสลบไปจู่ ๆ ก็มีลมวูบใหญ่พัดมา พร้อมเสียงแว่วที่ดังขึ้นมาจนน่าขนลุก
กูมาเอาคืน
หลวงพ่อเลยทำเทียนลงบนขันน้ำมนต์ ปรากฏเป็นรูปใบหน้าผู้ชายลักษณะคล้ายเเฟนเก่าเรา หลวงพ่อเลยถามเเม่ว่าไปทำอะไรเขาไว้ เขาถึงมาทำของใส่แบบนี้ น้าสาวเราที่พอจะรู้เรื่องเลยเล่าให้ฟังว่า เรากับเเฟนเก่าทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง เราเลยขอเลิก สุดท้ายแฟนเก่าเราได้เเช่งชักและขู่อาฆาตไว้ตอนเลิกกันว่า
สักวันหนึ่งกูจะเอามึงคืน! ต่อให้มึงกลายเป็นวิญญาณกูก็จะเอาคืน ขอให้มึงร้อนรนอยู่ไม่เป็นสุข!
พอแม่รู้แบบนั้น เเม่เลยโทรไปหาแฟนเก่าเรา เเต่สิ่งที่แม่รับรู้มาคือ เขาโคม่าอยู่ห้อง ICU เพราะอุบัติเหตุเมื่อวันก่อน หลวงพ่อจึงบอกแม่ว่าสิ่งที่เขาทำมันคือแรงกรรมของเขาที่ผูกไว้กับตัวเรา เเล้วการที่เขาทำแบบนั้นเพราะเขาเห็นเรามีความสุข แต่ตัวเขาไม่เคยมีความสุขเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
หลังจากจบเรื่อง ด้วยความสงสัยเราเลยถามญาติผู้ชายคนที่บอกให้เรารีบไปวัด เราถามว่าไอ้กองสีเทา ๆ ดำ ๆ กับเหรียญนั่นมันคืออะไร แล้วไหนจะเศษผ้าด้ายดิบนั่นอีก ญาติคนนั้นบอกกับเราว่า ที่เห็นนั่นคือ เถ้ากระดูกของคนตาย ที่เพิ่งเผาไป เหมือนกับว่าไปเอาออกมาจากเมรุ ส่วนเหรียญนั่นคือ เงินปากผี ที่น่าจะไปคุ้ยมาจากใต้เมรุเหมือนกัน ส่วนเศษผ้านั่นคือ ผ้าด้ายดิบที่เขาใช้ห่อศพ
คนทำเหมือนเขาต้องการให้เราอยู่ไม่เป็นสุขให้เราทรมานเหมือนอย่างที่เขาเป็น ส่วนเเมวดำนั้น ปู่เคยสอนญาติไว้ว่า เวลาอะไรไม่ดีเข้ามาในบ้านให้หาหมาหรือเเมวสีดำสนิทที่ไม่มีสีใดเเซม มาไว้ที่บ้าน มันจะปกป้องเราจากสิ่งไม่ดีเหล่านี้
นับตั้งเเต่วันนั้นมาเราเลยเลี้ยงเเมวดำไว้ที่บ้าน แล้วก็ไม่ได้ข่าวจากแฟนเก่าอีกเลย
ขอขอบคุณเรื่องเล่าจากคุณ ปลายฝุ่น ทางอินบ็อกซ์แฟนเพจ คลังสยอง ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ