เช็งเม้งขนหัวลุก เรื่องเล่าประสบการณ์หลอน

เมื่อประมาณปี พ.ศ.2522 ตอนนั้นเพิ่งปิดเทอมใหญ่ รอขึ้นชั้นมัธยมหนึ่ง ผมรู้สึกตัวเองโตมาก เมื่อถึงเทศกาลเช็งเม้งผมจึงไม่อยากไปร่วมด้วย ผมมองว่าเป็นเรื่องโบราณ ร้อนก็ร้อน อะไรๆ ที่ผู้ใหญ่ทำในตอนนั้น เด็กอย่างผมจะมองว่าล้าสมัย น่าเบื่อไปเสียหมด ผมมักต่อต้านแอนตี้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่ว่าพ่อผมดุมาก เจอบทลงโทษของพ่อ อาจจะถูกตัดเงินประจำสัปดาห์ไปเป็นเดือนๆ เหมือนพี่ชายคนโตของผมที่แอบไปดูดกัญชาแล้วพ่อทราบ เจอบทลงโทษหนึ่งเดือนเต็ม ต้องกินแต่ข้าวบ้านทุกมื้อ กินแต่ข้าวของที่มีแต่ในบ้าน ห้ามแม่หรือใครแอบให้เงิน หากรู้เจอเพิ่มอีกสิบเท่า พ่อทำจริงมาแล้ว ทุกคนจึงเกรงกลัวพ่อมาก ผมไปเช็งเม้งปีนั้นอย่างต่อต้าน ขึ้นรถก็โอ้เอ้ นั่งในรถก็ฟังซาวด์อเบาต์ที่ยุคนั้นกำลังฮิต พอเบื่อก็เอาเกมกดขึ้นมาเล่น เมื่อไปถึงสุสาน มักจะมีพวกโต๊ะข้าวต้มจับเกี้ยมที่พ่อมักเลี้ยงจัดคนมาด้วย เพราะคนที่มาไม่เพียงมีแต่ญาติ แต่พ่อจัดรถบัสขนาดใหญ่ไปอีกสี่คัน จึงมีทั้งเพื่อน ญาติ และใครก็ไม่รู้มาด้วย ทุกสุสานที่ไปจะมีการโยนเงินแจกทานอีก อาหารก็มีกิน ขนม แถมของชำร่วยที่แจกทุกสุสานอีก เทศกาลเช็งเม้งวันเดียวพ่อจะไปทุกสุสาน ทั้งอากงอาม่า อาแปะที่ตายไปแล้วและญาติคนอื่นๆ บางปีตอนเด็กไปกันถึงสิบแห่งก็มี ไปกันจนเหนื่อยเลย เหนื่อยขึ้นลงรถนี่แหละ ผมมักประชดให้แม่ได้ยิน เช็งเม้งที่ชลบุรี เมืองที่มีฮวงซุ้ยเยอะมาก ปีนั้นไปถึงที่แรก ผมขี้เกียจจำหรอกว่าหลุมของญาติคนไหน พอลงผมก็เดินหลบไปนั่งในโถงศาลาซึ่งก็แปลกดี อากาศร้อนมากแต่โถงศาลาพวกนี้จะเย็นสบายอย่างที่สุด พอเห็นคนเดินเสิร์ฟน้ำเย็นก็กวักมือเรียกให้นำมาเสิร์ฟ แม่เห็นเข้าก็เดินมาว่าผม ไปกวักมือเรียกพี่เขาแบบนี้ได้ไง […]

เรื่องห้ามเล่า ประสบการณ์หลอนรีสอร์ตนิรนาม

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้วระหว่างไปเที่ยวต่างจังหวัด ผมและเพื่อนอีก 3 คน มีชื่อว่า ไผ่ อีก 2 คนเป็นพี่น้องฝาแฝดกันชื่อว่า เขต กับ แดน พวกเราทั้งหมดได้ไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดด้วยกัน แต่ก่อนที่พวกเราจะออกไปเที่ยวนั้น ก็ได้ทำการนัดกันไปไหว้พระขอพรที่วัดประจำหมู่บ้าน ก็มีเพียงแค่ผม เขตและแดนเท่านั้นที่ไปไหว้พระ สวนไผ่นั้นไม่ได้ไปเนื่องจากตื่นสายก็เลยยุ่งอยู่กับการเตรียมตัว หลังจากที่พวกเราทุกคนได้ออกไปเที่ยวกันทั้งวันจนเหน็ดเหนื่อยแล้ว แต่พวกผมไม่ได้จองที่พักกันเอาไว้ จึงต้องขับรถไปหากันเอาเอง ระหว่างทางก็ตกลงกันว่าจะซื้ออาหารและเครื่องดื่มเข้าไปในที่พักด้วยเลย เพราะเวลาตอนนั้นก็ดึกแล้ว และอีกอย่างทุกคนก็เหนื่อยจากการเดินทาง เราขับรถมุ่งหน้าไปได้สักพักก็เจอกับที่พักแห่งหนึ่ง เป็นรีสอร์ทซึ่งอ่านจากป้ายดู ทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกและค่าเช่าก็ดูจะเหมาะสมกัน ทุกคนจึงตกลงเลือกรีสอร์ทแห่งนี้เป็นที่พักในที่สุด พวกเราเปิดห้อง 2 ห้องแยกกันพักเป็นคู่ พอเจ้าของรีสอร์ทพาทุกคนไปเดินดูที่พัก ทุกคนก็รู้สึกพอใจเพราะห้องของรีสอร์ทนั้นเพิ่งจะสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง หลังจากทุกคนจัดการเรื่องค่าเช่าแล้วก็จัดแจงเรื่องของกินกันแล้วก็แยกย้ายกันไป ในตอนนั้นผมก็รู้สึกแปลกๆ กับบรรยากาศบริเวณนั้นยังไงก็ไม่รู้ มันเงียบมาก ไม่มีแม้กระทั่งเสียงจิ้งหรีดร้อง หรือเสียงแมลง เรียกได้ว่าเงียบจริงๆ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ผมไปนอนกับไผ่ ส่วนฝาแฝดก็นอนกันอีกห้องหนึ่ง หลังจากผมเข้าห้องไปแล้วก็ได้นั่งคุยกับไผ่ ผลัดกันอาบน้ำแล้วออกมานั่งกินข้าว และหลังจากนั้นก็เตรียมดับไฟเข้านอน ก่อนที่จะนอนผมก็ได้ไหว้พระสวดมนต์ แต่ว่าไผ่เมื่อล้มตัวลงได้ก็นอนไปเลย ผมจึงหันไปบอกกับไผ่ว่า “เมื่อเช้าก็ไม่ได้ไปไหว้พระ ก่อนนอนมานอนต่างที่ต่างถิ่นก็ไม่คิดจะไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนเลยเหรอ” เมื่อไผ่ได้ยินคำพูดของผม จากที่นอนหงายจึงเปลี่ยนมานอนตะแคงหันหลังให้ผม แล้วก็พูดออกมาว่า […]

แค้นของมโนราห์ เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

แตร๊ด แตรด แตร่ แตร่ แตร่ แตร่ ว่า อ้อ ออ ออ อ้อ ออ ออ เสียงดนตรีกับเสียงร้องมโนราห์แว่วมายามดึก เลยให้นึก ถึงความเก่า แต่หนหลัง อันตัวเรา จะบอกกล่าว เล่าให้ฟัง เมื่อแต่ครั้ง เวลา กาลก่อนมา สมัยที่เรายังเด็ก ๆ เกิดคดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นในหมู่บ้าน นั่นคือที่หมู่บ้าน มีการจ้างคณะโนราห์คณะหนึ่งมาทำการแสดง ข้ามเขามาจากฝั่งพัทลุง เป็นคณะแสดงเล็ก ๆ คืนนั้นเราก็ได้ไปดูด้วย เพราะเราเป็นคนชอบดูมโนราห์ แต่รำไม่เป็น และหนึ่งในโนราห์ที่มารำ หน้าตาดี เราก็ดูจนจบก็กลับบ้านนอน ตื่นเช้ามา มีตำรวจมาที่หมู่บ้าน พ่อเราก็ไปฟังข่าว ก็กลับมาเล่าสู่แม่ฟัง เราเลยรู้ว่า มีผู้หญิงถูกฆ่ๅตๅย ด้วยการจับผูกคอกับต้นไม้ และคนที่ตๅยคือหญิงสาวหน้าตาดี ที่เป็นมโนราห์ที่มารำเมื่อคืนนี้เอง ถูกฆ่ๅที่ในป่าข้างหมู่บ้าน ตำรวจไปตรวจสอบแล้ว น่าจะเป็นการฆๅตรกรรมอำพราง เพราะการตรวจสอบ พบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ในจุดไม่ไกลที่พบศพ แล้วกางเกงในก็ถูกถลก ตกอยู่ในพุ่มไม้ ตามเนื้อตัวศพก็พบรอยเหมือนถูกดูดเป็นจ้ำ ๆ ที่เต้านม บริเวณของลับก็มีคราบเลือดเกรอะ น่าจะถูกข่มขืuแล้วฆ่ๅ […]

กระทงเซ่นผีตรงทางสามแพร่ง เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเราเรียนอยู่ชั้นมัธยม มันเป็นช่วงเวลาปิดเทอม พวกเราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม ที่อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พวกเราเดินทางกันไปเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งหมด 12 คน เมื่อสะพายเป้เดินทางไปถึง ก็มีพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตลอดจนชาวบ้านแถวนั้น ยืนยิ้มร่า พวกเขามาต้อนรับพวกเรามากพอสมควร พวกเราซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเมื่อต่างสัมผัสได้ถึงความรู้สึกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ความจริงใจ ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ เรายกมือไหว้ทักทายทุกคนราวกับรู้จักมักคุ้นกับมาแต่ปางบรรพ์ จากนั้นพวกเราก็นั่งล้อมวงบนเสื่อกินข้าว มีอาหารไม่กี่อย่าง พื้นๆ แต่รสชาติโคตรอร่อยเหาะ กินกันไปพูดคุยสัพเพเหระ ถามตอบกันครึกครื้น ทำให้พวกเราได้รู้ว่าคนต่างจังหวัดนั้นใสซื่อและเข้ากับคนต่างถิ่นอย่างพวกเราได้เป็นอย่างดี เมื่อกินอิ่ม พวกเรารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมผ้าขาวม้าคาดพุง มือถือเคียวและสวมงอบบังแสงแดด ออกไปร่วมกับชาวบ้านเกี่ยวข้าวกันอย่างไม่กลัวความร้อนและความลำบาก ทุกคนก้มๆ เงยๆ อยู่ในแปลงข้าว ส่งเสียงพูดคุยหัวเราะดังไปทั่วคุ้ง นานๆ จะเงยหน้าขึ้นสูดอากาศสะอาดๆ เข้าปอด เบื้องหน้าล้อมรอบไปด้วยทุ่งข้าวออกรวง สีทองเหลืองอร่ามพริ้วไสวไปมาด้วยสายลม เพลินจนบ่ายสามโมง ทุกคนเริ่มมีอาการคันยุกยิกจากการเกี่ยวข้าว พวกเราจึงได้พัก จากนั้นก็ชวนกันไปเล่นน้ำในคลองเป็นที่เฮฮาสนุกสนาน จนเย็นจึงถูกผู้ใหญ่ต้อนให้ขึ้นจากน้ำ เพราะทุกคนเล่นน้ำเล่นโคลนกันจนขึ้นหนวดเครา เขียวครึ้มไปทั้งหน้าทั้งตัว จนดำเหมือนน้องควายนั่นเอง เมื่อกลับถึงบ้านก็แย่งกันอาบน้ำโอ่ง ผลัดเปลี่ยนผ้าผ่อน ประแป้งหน้าขาววอก กินข้าวและเตรียมไปเที่ยวงานวัด พวกเราจะได้ดูหนังกลางแปลงที่ไม่ได้ดูมานานแล้ว เมื่อได้เวลาใกล้งานเริ่ม พวกเราช่วยกันแบกเสื่อสาดเดินตามกันไปวัด […]

คนกลัวศพ เรื่องเล่าเขย่าขวัญศพสึนามิ

เป็นเหตุการณ์ที่คุณโอไปประสบพบเจอมา แล้วนำมาเล่าให้คุณหมีฟังอีกทอดหนึ่ง มีใจความว่า เรื่องมันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้วล่ะ ผมทำงานเกี่ยวกับสายข่าวอาชญากรรม ช่วงนั้นผมจำได้ดี เพราะมันเป็นช่วงที่ประเทศของเราเพิ่งจะประสบกับเหตุการณ์สึนามิ กว่าผมจะเคลียร์เรื่องเอกสารเสร็จและเตรียมลงพื้นที่ก็ปาเข้าไปกลางเดือนมกราคม ผมมีแพลนว่าต้องลงพื้นที่หกจังหวัดด้วยกัน เพื่อจะต้องเขียนสกู๊ปลงในคอลัมน์ ปกติแล้วผมทำข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรม พบเจอกับเหตุการณ์น่าสยดสยองมาก็เยอะพอสมควร แต่เมื่อผมลงไปถึงพื้นที่ ๆ เกิดเหตุ ตัวผมเองถึงกับต้องเบือนหน้าหนีภาพที่อยู่ตรงหน้า ขอโทษนะครับ ศwเนี่ยเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้นที่ ไม่ว่าจะมองไปยังจุดไหนมุมไหนเดินไปทางไหน ทุกที่จะต้องมีศwอยู่อย่างน้อย ๆ เลยหนึ่งถึงสองศw ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมรู้สึกจิตตกและหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ตัวผมเองทำงานคู่กับคนดังอยู่คนนึงที่ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศw ผมมองว่าถึงผมจะประจำการอยู่ที่นี่ ก็คงช่วยอะไรใครไม่ได้มากนัก เพราะเป้าหมายหลักที่ผมต้องเขียนลงสกู๊ปนั้นมีอยู่แค่ว่า สึนามิมันเข้ามาตอนไหน และทำไมผู้คนถึงไม่ทันรู้ตัว ผมเลยต้องเดินทางไปยังอีกจังหวัดนึง และขออนุญาตไม่เอ่ยถึงชื่อจังหวัด เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จังหวัดนี้มีหมู่เกาะเล็ก ๆ อยู่หลายเกาะด้วยกัน ผมเลยต้องเดินทางไปยังเกาะนั้นทีนี้ที บางครั้งในตอนที่ผมนั่งเรือเดินทางข้ามเกาะ ผมยังเห็นศwลอยอยู่เป็นจุด ๆ ที่ร้ายกว่านั้นคือบางศwกลับลอยตามเรือที่ผมกำลังนั่งโดยสารอยู่ ผมมองด้วยใจอันหวั่น ๆ แล้วหันไปมองหน้าคนบังคับเรือ แต่เหมือนว่าเค้าจะไม่ได้ให้ความสนใจเท่าใดนัก ผมเลยต้องนั่งเงียบ ๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไร ช่วงเย็นผมได้เข้าไปพักยังบังกะโลแห่งหนึ่งภายในเกาะ เกาะแห่งนี้ก็ไม่พ้นโดนสึนามิเช่นกัน เพราะงั้นโรงแรมดี ๆ ที่มีสภาพปกติจึงเหลือน้อยมาก ผมจึงได้ถามกับทีมงานของผมที่ประจำอยู่ที่นี่หลายวันแล้วว่าพอจะมีที่พักบ้างมั้ย ทีมงานตอบผมว่า มี […]

ตระบัดสัตย์! อาถรรพ์คนตีผึ้ง

“น้ำผึ้งเดือน 5” เป็นของหายากและมีราคาแพง เนื่องจากการที่จะหาน้ำผึ้งเดือน 5 มาได้สักขวดไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ต้องเข้าป่าใหญ่ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน 1 คืน กว่าจะถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พรานผึ้งเรียกกันว่า “ต้นผึ้ง” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มาก ลำต้นต้องใช้คนประมาณ 10 คน ถึงจะโอบลำต้นได้รอบ เมื่อ 20 ปีก่อน ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา มีพรานผึ้งพร้อมพวก 5 คน ออกเดินทางในยามเช้า ก่อนเข้าป่าแน่นอนว่าทุกคนต้องทำพิธีขออนุญาตเจ้าป่าเจ้าเขา โดยการจุดธูปแล้วบอกกล่าวจุดประสงค์ ว่าขอเข้าไปหาน้ำผึ้งป่าแต่เพียงอย่างเดียว เพื่อนำมาใช้ในการดำรงชีวิตเท่านั้น จากนั้นทุกคนก็เดินทางเข้าป่าลึก อย่างที่บอกใช้เวลา 2 วัน 1 คืนกว่าจะถึงต้นผึ้ง ระหว่างที่เดินทางเสบียงอาหารอาจจะไม่เพียงพอในขากลับ พรานผึ้งคนหนึ่งจึงยิงสัตว์ป่าไปหลายตัวเพื่อให้มีอาหารที่เพียงพอ ซึ่งพรานผึ้งที่เป็นหัวหน้าก็ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ เพราะก่อนเข้ามาได้ขอเจ้าป่าเจ้าเขาว่าแค่มาเอาน้ำผึ้งเท่านั้น แต่ลูกน้องดันมายิงสัตว์ป่าแบบนี้โบราณถือว่าเป็นการ “ตระบัดสัตย์” อาจจะโดนอาถรรพ์เล่นงานได้ คนเป็นหัวหน้าก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เกรงว่าจะเกิดการทะเลาะและหมางใจกัน ก็เลยเงียบ ๆ ไว้ คิดว่าเดี๋ยวค่อยขอขมาทีหลังก็แล้วกัน ทั้งหมดพากันเดินมาจนถึงต้นผึ้งก็เป็นเวลาย่ำค่ำ ต่างคนต่างเร่งจัดแจงสิ่งของที่ต้องใช้ แบ่งหน้าที่กัน […]

นกเน่า เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร เมื่อ 38 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นลุงทิวเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ จึงได้ไปสมัครเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าอุปโภคบริโภค สมัยนั้นห้างตามต่างจังหวัดยังเป็นแค่ห้างเล็ก ๆ ลุงทิวก็จะไปจัดบูทตามร้านที่ใหญ่ ๆ หน่อย จนถึงเย็นก็กลับโรงแรม ช่วงนั้นทางบริษัทให้ลุงทิวเลือกคนขับรถไปคนนึง ลุงทิวจึงเลือกเอาคนที่สนิทที่สุด เป็นคนตัวใหญ่ สักเต็มตัว คนนี้ก็ได้มาขับรถให้ลุงทิวอยู่หลายปี สมัยนั้นมุกดาหารจะมีโรงแรมไม้อยู่แห่งหนึ่ง ผู้แทนทุกคนจะต้องเข้าพักโรงแรมนี้ วันนึงที่ลุงทิวและคนขับรถได้ขับผ่านอําเภอนาแก ก็ไปเจอเข้ากับนกเหยี่ยวที่ขายอยู่ร้านข้างทาง ลุงทิวใฝ่ฝันว่าอยากจะเลี้ยงมานานแล้ว ซึ่งทางร้านขายแบบเป็นคู่ ลุงทิวจึงหันไปถามคนขับรถว่าซื้อไปคนละตัวดีไหม คนขับรถก็ตกลงซื้อด้วย จากนั้นจึงได้นำเชือกผูกขานกแล้วใส่ไว้ในกล่อง พอขับรถผ่านตลาดสดนาแก ก็ได้แวะซื้อเนื้อแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อที่จะเอาไว้เลี้ยงนก ทั้งสองขับรถมาถึงโรงแรมเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ลุงทิวและคนขับรถจึงเอานกใส่ไว้ในลัง ลังละตัว แล้วก็นั่งทำงานต่อ ส่วนคนขับรถก็นั่งดื่มอยู่ข้าง ๆ จนเวลาประมาณเกือบ 2 ทุ่ม อยู่ ๆ ไฟก็ดับ แล้วคนขับรถก็วิ่งสวนออกไปนอกห้องทันที โดยที่ไม่พูดอะไรกับลุงทิวเลย ลุงทิวจึงไปเอาเทียนไขมาจุด แล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน โต๊ะทำงานจะหันหน้าไปทางโต๊ะกระจกแต่งตัว ด้านหลังจะเป็นเตียงนอน ลุงทิวนั่งทำงานไปสักพักก็รู้สึกเมื่อยตัว จึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วสายตาก็เหลือบไปมองกระจกที่โต๊ะแต่งตัว ทันใดนั้น ก็เห็นเป็นลักษณะเงาของผู้หญิงดำ […]

เทวรูปกินคน ตำนานอาถรรพ์รูปปั้นผีสิง

เรื่องนี้เป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา เรื่องมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งได้ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตของเขาซื้อที่ดินห้าไร่ท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อจะปลูกผลไม้ขาย เขาสร้างบ้านเล็ก ๆ ไว้ในสวนและอยู่อย่างสันโดษ หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพเขาก็ไม่รอช้า คว้าจอบเสียมขุดหลุมปลูกกล้วยน้ำว้า ในขณะที่ขุดไปได้สักพัก อยู่ ๆ จอบก็กระแทกกับบางอย่างเสียงดัง แกร๊ง! เขาเอามือเกลี่ยดินบริเวณนั้นออกก็ได้พบกับบางอย่างคล้ายรูปปั้นสีดำ เขาจึงขุดมันขึ้นมา ลักษณะรูปปั้นเป็นชายหัวล้าน อ้วนลงพุง มือสองข้างแตะอยู่ที่ท้อง สีดำทมิฬ ดวงตาสีแดงก่ำ แต่ที่ชวนสยองสุด ๆ คือ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่กลับชวนให้ขนลุก ในปากคล้ายมีเขี้ยวซี่เล็ก ๆ เรียงรายอยู่ มีคราบสีออกน้ำตาลที่มุมปากคล้ายเลือดที่แห้งกรัง มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาเลยรีบนำมันไปให้พระที่วัด พอหลวงพ่อรูปหนึ่งเห็นรูปปั้นประหลาดนั้นก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด รีบตะโกนเรียกเด็กวัดให้ตามพระรูปอื่นมาทันที ชายหนุ่มสงสัยเลยถามออกไปว่า รูปปั้นนี้มันมีอะไรรึเปล่าครับ หลวงพ่อจึงตอบด้วยเสียงที่สั่น ๆ ว่า เดี๋ยวเสร็จพิธีแล้วอาตมาจะเล่าให้ฟังทีหลัง ตอนนี้ต้องรีบแล้ว ชายหนุ่มเริ่มใจไม่ดีเลยยอมทำตามที่หลวงพ่อบอกและเก็บความสงสัยไว้ในใจ เวลาประมาณห้าโมงเย็น พระท่านขอช่วยให้เขาเอารูปปั้นใส่เข้าไปในเมรุเผาศพ แล้วพระท่านก็เริ่มทำพิธี ลักษณะดูคล้ายงานศพแต่บทสวดมันฟังดูแปลก ๆ พิกล เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ หลวงพ่อก็มาเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง รูปปั้นนี้มันเป็นของเขมรโบราณ ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า เทวรูปกินคน! ไม่มีใครเจอมาหลายสิบปีแล้ว โยมนี่มันซวยจิง ๆ […]

เรือผีหลอก เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

สมัยเด็กผมอยู่แถวคลองแสนแสบ ไม่ว่ามีนบุรี หนองจอก หัวตะเข้ ลาดกระบัง คลองหลวงแพ่ง สมัยก่อนยังเป็นเรือกสวนไร่นา ค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวผมเจอเรื่องขนหัวลุกเข้าที่คลองแสนแสบนี่เอง! ตอนเย็น ๆ ใครนั่งเรือผ่านไปมาจะรู้สึกเยือกเย็นวังเวงใจชอบกล ต้นไม้ใหญ่ ๆ ยืนทะมึนอยู่สองฟากฝั่ง กอไผ่โน้มลงมาเรี่ยผิวน้ำ ต้นไทรที่มีผ้าเหลืองผ้าแดงเก่า ๆ ขาดวิ่นพันอยู่โคนต้น ห้อยลงมาตามกิ่งก้านสาขาร่มครึ้ม โดยเฉพาะรากห้อยระย้าลงมาเกือบถึงพื้น แกว่งไกวไปมาตามสายลมที่หวีดหวิวคร่ำครวญไม่หยุดหย่อน มองเผิน ๆ เหมือนมีใครกำลังจ้องมองมาจากหลังม่านไทรย้อยก็ไม่รู้ ยิ่งยามพลบค่ำ ท้องฟ้าสีหมากสุกสะท้อนเงาอยู่ในสายน้ำ หันไปมองข้าง ๆ ก็เห็นพงอ้อกอหญ้าค่อนข้างสูงมืดครึ้ม ไหนจะมีศาลเพียงตาโย้เย้ เอียงกระเท่เร่จะล้มมิล้มแหล่มาลัยแห้ง ๆ หลุดล่อนเกือบหมดทุกพวง แถมศาลที่ว่านี่ยังค่อนข้างหนาตาอีกต่างหาก เขาว่ามีคนตายโหงก็ตั้งศาลเพียงตาที ให้วิญญาณอยู่ที่นั่นซีครับ! เท่านั้นยังไม่พอผ่านไปอีกหน่อยยิ่งน่าวังเวงใจสุด ๆ เพราะจะถึงป่าช้าเก่าที่ทิ้งร้างมาหลายสิบปีแล้ว พวกผู้ใหญ่หลายคนเล่าว่าเคยถูกผีหลอกตอนพายเรือคดเคี้ยวไปตามลำคลอง ถ้าเป็นหน้าน้ำบางแห่งจะมองเห็นรวงข้าวเหลืองอร่ามไปสุดลูกหูลูกตา แต่เย็น ๆ ค่ำ ๆ อย่าได้ริอ่านไปพายเรือเล่นกินลมเข้าเชียว มีหวังโดนผีหลอกไม่รู้ตัว ตามุด อายุเกือบหกสิบเล่าว่าเคยโดนผีหลอกสาหัส ไม่รู้ว่ารอดตายมาได้ยังไง? เย็นนั้นตอนปลายปี ตามุดได้ข่าวว่าลูกสาวเจ็บท้องจะคลอดลูก อารามดีใจที่จะได้หลานก็ลงเรืออีแปะพายอ้าวไปทันทีปรากฏว่าได้หลานชายน่า รักน่าชัง ตามุดก็เชยชมหลานแกจนเลยค่ำถึงได้พายเรือ […]

แม่มาอีกแล้ว เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

ดิฉันเป็นครูประจำชั้นประถมปีที่ 6 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ นี่เองค่ะ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับลูกศิษย์คนหนึ่ง ดิฉันก็จำเป็นต้องเชิญผู้ปกครองมาพบ ที่จริงดิฉันคุ้นเคยกับคุณแม่ท่านนี้เป็นอย่างดี จึงเสียใจและเสียขวัญเป็นอย่างมาก เมื่อมีเรื่องไม่คาดฝันอุบัติขึ้น นั่นคือ การเชิญของดิฉันเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เธอถึงแก่ความตๅย! เด็กนักเรียนห้องที่ดิฉันรับผิดชอบอยู่ มีทั้งหมด 45 คน พวกแกเป็นกลุ่มเด็กเรียนอ่อน แต่พวกแกน่ารักนะคะ หลายคนขี้เล่นและมีอารมณ์ขันค่ะ บอกตรงๆ ว่าดิฉันรักเด็กกลุ่มนี้มากกว่ากลุ่มที่เรียนเก่งเป็นเลิศ เพราะเด็กพวกนั้นน่ะถึงจะสอนง่าย มีระเบียบ เก่งไปซะทุกอย่าง ทว่าส่วนมากจะเครียดๆ ดูแววตาแกสิคะ ไม่แจ่มใสตามวัยซน แต่จะมีแววมาดมั่นเกินตัว! น่าสงสารค่ะ ชีวิตวัยเยาว์ของแกถูกพรากไปหมด เพราะต้องแข่งเรียนให้ดีเด่นกว่าคนอื่นๆ จะได้สอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่ดีๆ ได้ วัยสิบขวบอย่างแกต้องมีแต่เรียนเท่านั้น เรียนกันอย่างหัวปักหัวปำ พ่อแม่ที่ห่วงอนาคตของลูกก็พาไปเรียนพิเศษทุกคน เรียนมันทุกเย็น เสาร์อาทิตย์ยังต้องเรียนทั้งวันอีกเฮ้อ! ส่วนเด็กห้องดิฉันน่ะ บางคนก็ตามสบายจนเกินไป ไม่เห็นความสำคัญของการเรียน แบบนี้ดิฉันก็ไม่ชอบเพราะอ่อนใจน่าดู มิหนำซ้ำยังโดนผู้ปกครองตำหนิติเตียนว่าครูไม่รู้จักสั่งสอนให้ลูกเขาได้ดีโลกนี้ไม่มีอะไรสมดุลเสียเลย เด็กๆ ที่ดิฉันรักและสงสารคือประเภทที่นิสัยดี ตั้งใจเรียน ขยันทำการบ้านมาส่ง แต่จนแล้วจนรอดก็เรียนไม่เก่งกับเขาสักที ระดับสติปัญญาสู้ใครเขาไม่ได้ แต่นิสัยดีกว่าคนอื่นๆ หลายต่อหลายคน น้องเอก-ลูกศิษย์คนโปรดของดิฉันก็จัดอยู่ในประเภทนี้ เอกอายุ 11 ขวบ […]