กระสือยายทม เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ขอสมมติชื่อบุคคล เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงแบบเจาะจงรายบุคคล มาเริ่มเรื่องกันเลยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งคนเฒ่าคนแก่ ผู้หลักผู้ใหญ่ มักจะบอกลูกบอกหลานตนเองว่า ยายทม นั้นเป็นกระสือ ห้ามไปใกล้ ห้ามไปพูดคุย ห้ามไปเล่นกับลูกหลานของยายทม เป็นอันว่าคนในหมู่บ้านพอจะรู้ดี เค เป็นเด็กที่ชอบเล่นวอลเลย์บอลมาก บี เองก็เช่นกัน บีนั้นเป็นญาติของยายทม ปลูกบ้านอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน บ้านของบีเป็นบ้านปูนสองชั้น บ้านของยายทมนั้นทำด้วยปล้องไม้ไผ่หยาบๆ คนนอกมองข้างในได้ คนจากข้างในก็มองเห็นคนข้างนอกด้วยเช่นกัน ส่วนครอบครัวบีจะไม่เข้าไปยุ่งกับยายทม นับตั้งแต่ชาวบ้านเค้าลือกัน ยายทมมีลูกหรือหลานชื่อ ยายสำลี แกจะเป็นคนคอยเอาอาหารมาให้เป็นประจำ มีแค่ยายสำลีเท่านั้นที่ทำ บ้านยายสำสีปลูกถัดจากบ้านของบีไปหนึ่งหลังคาเรือน เคกับบีกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เพราะชอบเล่นวอลเลย์บอล ทุกๆ วันสองคนนี้จะเล่นที่โรงเรียนด้วยกันประจำ เคไม่ได้บอกให้ทางบ้านรู้ว่าตนไปสนิทกับบี เพราะกลัวยายจะดุและห้ามเล่นวอลเลย์ เคมีลูกพี่ลูกน้องที่อยู่บ้านเดียวกันถึงสองคน นั่นคือ อ้อม ปุ้ย รวมเคด้วยเป็นสามคน ทุกคนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ก็ไม่มีใครปริปากเรื่องที่เคสนิทกับบีให้ยายฟังเพราะเด็กก็เล่นตามประสาเด็ก มีอยู่วันหนึ่ง เคไปเล่นวอลเลย์บอลที่บ้านบี ช่วงเย็นๆ แล้วบังเอิญลูกบอลกลิ้งไปข้างๆ บ้านยายทม บีบอกให้เคไปเก็บเพราะบีกลัว เคเองเป็นเด็กซน อยากรู้อยากเห็น ในใจก็รู้ว่ายายทมเป็นอะไร แต่ไม่เคยเห็นเลยไม่เชื่อ เคจึงค่อยๆ ย่องไปแอบมองตรงช่องว่างที่ทำด้วยไม้ไผ่ […]

คืนป่าปิด เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนของคุณเจ็ต บรรดาเพื่อนของคุณเจ็ตนั้นชอบตกปลา ชอบหาปลามาก ตอนช่วงต้นเดือนก็วางแผนกันจะเข้าป่า ไปหาปลาที่ต้นน้ำ ซึ่งต้นน้ำที่เพื่อนจะเข้าไปนั้น เป็นรอยต่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดระนอง ซึ่งการที่จะเข้าไปถึงต้นน้ำนั้นต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 วัน เพื่อนก็ได้รวมตัวกันทั้งหมด 5 คน ได้เตรียมเสบียง อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมเดินทาง และก็ได้ไปว่าจ้างนายพรานคนที่เคยว่าจ้างนำทางเข้าที่นี่มาก่อนแล้ว แต่ว่านายพรานปฏิเสธ เนื่องจากเวลานี้เป็นช่วงฤดูฝน เป็นช่วงป่าปิด ไม่ควรจะเข้าไป แต่ว่าเพื่อนๆ หลายคนก็ไม่ได้สนใจ เนื่องจากปีที่แล้วเคยเข้ามาที่ต้นน้ำแห่งนี้มาก่อนแล้ว ยังพอมีคนจำทางได้ จึงออกเดินทางกันเองโดยที่ไม่มีพรานนำ หลังจากทุกคนเตรียมตัวเสร็จ ก็ได้ขับรถไปที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับทางขึ้นเขาที่อยู่ใกล้ๆ ต้นน้ำมากที่สุด เวลานั้นเป็นเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ทุกคนจึงรีบเดินขึ้นเขา และมุ่งหน้าเข้าสู่ป่า เดินกันไปได้ซักพักนึง ก็ไปเจอนายทหารพรานทั้งหมด 4 นาย นายทหารเหล่านั้นก็ได้ขอตรวจค้นสัมภาระ เนื่องจากต้องระวังผู้ลักลอบขนของผิดกฏหมาย หลังจากไม่เจออะไร นายทหารท่านหนึ่งก็เตือนว่า ระวังให้ดี ในป่าช่วงนี้มันอันตราย แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อ จนเวลาก็ล่วงผ่านไป จนถึง 5 โมงเย็นซึ่งในป่าจะมืดเร็วมาก ทุกคนจึงตัดสินใจมองหาที่พักเพื่อตั้งเต็นท์ หลังจากทำอาหารเย็นกินแล้ว ทุกคนก็พักผ่อนกัน พอเวลาซัก 3 […]

ตามมาเพียบ! ประสบการณ์หลอนพระวัดป่า

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย เมื่อประมาณสองเดือนทีผ่านมา น้องชายของคุณโต้งกลับมาจากต่างประเทศ จึงมีแพลนที่จะทำร้านอาหารกัน แต่ตอนนั้น คุณโต้งอายุสามสิบ ยังไม่เคยบวชให้คุณพ่อคุณแม่ ก็คิดว่าจะขอบวชก่อน จึงได้ไปดูฤกษ์บวชมา เป็นวันที่สี่เดือนเมษายน บ้านของคุณโต้งจะอยู่ในตัวเมืองเชียงราย ตั้งใจไว้ว่าจะบวชที่วัดใกล้บ้านก่อนสองวัน แล้วอีกเจ็ดวันจะย้ายไปบวชที่วัดป่า ตอนที่คุณโต้งบวชอยู่ที่วัดในเมือง คุณโต้งได้อยู่กุฏิคนเดียว ถึงจะเป็นวัดในเมือง แต่ตกกลางคืนแล้วก็ค่อนข้างเงียบมาก แทบจะไม่มีเสียงรถหรือเสียงอย่างอื่นมารบกวน กิจวัตรประจําวันก็เหมือนกับวัดอื่นๆ ทำวัดเช้าตอนตีห้า ทำวัดเย็นตอนห้าโมง จนถึงวันที่คุณโต้งย้ายไปที่วัดป่า ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณหกสิบกิโลเมตร ล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา ไม่มีสัญญาณมือถือ ภายในวัดจะมีศาลาการเปรียญหลังไม่ใหญ่มาก ด้านหลังศาลาจะเป็นเมรุเผาศพ ส่วนกุฏิรวมจะอยู่หลังวัด ห่างจากศาลาประมาณสี่ร้อยเมตร ทางเดินไปกุฏิจะเป็นทางตัดผ่านเข้าไปในป่า เป็นแค่ช่องทางเดินเล็กๆ สองข้างทางจะเป็นต้นไม้สูง ขึ้นเบียดเสียดกันจนแน่นขนัด กุฏิรวมจะมีสองชั้น คุณโต้งมาถึงที่วัดแห่งนี้ประมาณบ่ายสามโมง ทางวัดจัดให้คุณโต้งพักที่กุฏิรวม แต่คุณโต้งขอพักที่กุฏิเดี่ยว ซึ่งจะอยู่ไม่ห่างจากกุฏิรวมมากนัก มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีพระอาศัยอยู่ คุณโต้งก็เดินสำรวจกุฏิ ก็พบว่าประตูห้องน้ำชำรุด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนเวลาประมาณหกโมง ก็ถึงเวลาทำวัดเย็น หลังจากทำวัดเย็นเสร็จ คุณโต้งก็เริ่มเจอพระที่มาบวชเหมือนกัน ได้เข้ามาทักทายคุณโต้งว่า อ้าวหลวงพี่ นอนที่ไหนเหรอ คุณโต้งจึงบอกว่า นอนที่กุฏิเดี่ยวครับหลวงพี่ หลวงพี่ท่านนั้นก็ถามกลับว่า จะนอนที่กุฏินั้นจริงๆ เหรอ […]

เปรตพระที่ถ้ำบนเขาจังหวัดเลย เรื่องเล่าสยองขวัญ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเจอมากับตัวครับ เรื่องอาจไม่มีสตอรี่อะไรมาก แต่ก็ถือเป็นไม่กี่ครั้งในชีวิตที่เจอแบบจังๆ กลางวันแสกๆ เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มหาลัยผมพึ่งจะสอบเสร็จครับ นักศึกษาหลายคนยังไม่กลับบ้านเพราะต้องรอเคลียร์งานค้างต่างๆ ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ยังไม่กลับบ้าน เพราะนอกจากจะต้องจัดการงานค้างต่างๆ แล้ว ยังเป็นช่วงที่เหมาะกับการขับรถเที่ยวชิลๆ ก่อนไปพักผ่อนยาวที่บ้าน จังหวัดที่ผมเรียนอยู่มีภูเขาเยอะมากครับ ที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะผมที่ชอบเที่ยวตามวัดวาอารามด้วย วัดที่มีธรรมชาติงดงามจึงเป็นสถานที่ปักหมุดต้นๆ ของผมครับ ช่วงก่อนหน้านั้นหลายวัน ผมก็บ่นกับพี่คนนึงที่สนิทกันว่าเบื่อๆ ไม่มีอะไรจะทำ อยากไปเที่ยวโน่นนี่ ตามประสานักศึกษามหาลัยที่พึ่งจะสัมผัสคำว่าว่างครับ วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง พี่ผมคนนี้เลยส่งรีวิววัดถ้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอสมควรเรื่องหินงอกหินย้อยที่งดงามมาให้ดู พี่: วัดถ้ำ. เคยไปยัง? ผม: ยังๆ พี่: ไปมั้ย? ผม: ไปๆ พรุ่งนี้เลยมั้ย พี่: เคๆ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปรับพี่ที่หอครับ อากาศวันนั้นถือว่าดีเหมาะแก่การเที่ยวมากเพราะไม่มีแดดเลย เราออกเดินทางกันประมาณ 11 โมงครับ ระหว่างทางมีฝนพรำนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเปียก ทางเข้าค่อนข้างคดเคี้ยวพอสมควร ต้องผ่านไร่นาและสวนยางของชาวบ้านเข้าไป ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่หมายใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงครับ พอมาถึงวัดก็มองหาถ้ำแต่ก็ต้องผิดหวังกันครับ เพราะเป็นช่วงหน้าฝน ทางวัดเลยปิดถ้ำเพราะไม่สะดวกในการลงไป และป้องกันอันตรายจากการลื่นล้ม ผมกับพี่จึงได้แค่ไหว้พระและขอพรพญานาคหน้าปากถ้ำครับ พอที่หมายแรกล้มเหลวไปแล้ว […]

เลี้ยบ..เพื่อนรัก เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

สวัสดีพี่ๆ ทีมงานเดอะช็อคทุกคน ผมชื่อชิครับ เรื่องที่จะนำมาเล่าวันนี้เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับผมเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมกับเพื่อนอายุ 25 ปี ผมมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อเลี้ยบครับ ผมกับเลี้ยบสนิทกันมากเพราะว่าบ้านเราอยู่ใกล้กัน เดินไปแป๊บเดียวก็ถึงบ้านเลี้ยบแล้ว แล้วพ่อแม่ผมกับพ่อแม่มันก็สนิทกันมาก ต้องบอกว่าผมกับเลี้ยบเรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาล ประถมก็เรียนด้วยกัน มัธยมก็เรียนด้วยกัน จนมา ปวช. เราก็เรียนโรงเรียนเดียวกันครับ ตอนเช้ามันก็จะมารับผมแล้วเดินไปป้ายรถเมล์พร้อมกันเพื่อรอขึ้นรถเมล์ไปเรียนนั่นเอง วันนั้นผมจำได้ดี เป็นวันจันทร์ เลี้ยบก็มารับผมตามปกติ แต่ครั้งนี้มันมาแปลกครับ ทุกครั้งที่เดินไปหน้าปากซอยมันจะเป็นคนเฮฮา ตลก ชอบเล่นอะไรแผลงๆ วันนั้นมันนิ่งมากครับ เดินก้มหน้าก้มตา ผมก็ถามว่าเลี้ยบเป็นอะไรวะ มันก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ไปเหอะ รีบไปเรียนดีกว่า ก็ไปเรียนกันครับ พอรถมาก็นั่งรถไปเรียน แต่ท่าทีที่แปลกของมัน มันไม่คุยกับผมเลย เป็นอะไรที่ผมแปลกใจมาก ผมพยายามถามมันก็ไม่บอก บอกแต่ว่าไม่เป็นอะไร ถามว่าไม่สบายรึเปล่า มันก็บอกว่าไม่ สบายดี ผมก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ พอถึงโรงเรียนก็ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ตัวผมเรียนก่อสร้าง ส่วนไอ้เลี้ยบเรียนช่างไฟ พอมาถึงช่วงเย็นผมก็จะรอเลี้ยบอยู่หน้าโรงเรียนวันนั้นผมรอนานมาก เลี้ยบไม่มาสักที จังหวะนั้นพอดีหันไปเห็นเพื่อนเลี้ยบกำลังเดินมาพอดี ผมก็เลยถามว่า เฮ้ย! ไอ้เลี้ยบไปไหนวะ? เมื่อตอนเที่ยง ไอ้เลี้ยบมันโดดเรียนไปไหนก็ไม่รู้ เพื่อนของเลี้ยบมันก็ตะโกนกลับมา ผมก็สงสัยว่า เอ๊ะ […]

โป่งผีดุ อาถรรพ์ในป่าลึก เรื่องเล่าสยองขวัญ

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่พรานล่าสัตว์เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ชวนขนลุกไปป่าลึก พราณลุม เป็นพรานเฒ่าอายุเยอะมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นพรานที่เจนป่าอยู่ คนรุ่นเดียวกับแกต่างก็เลิกเป็นพรานไปหมดแล้ว แต่แกก็ยังใช้ชีวิตเป็นพรานป่าเก็บของป่ามาขายในเมืองบ้าง ล่าสัตว์มาขายบ้าง นำทางให้นักท่องเที่ยวบ้าง ถึงอายุจะเยอะ แกก็เป็นพรานที่มีคาถาอาคม ไม่ว่าจะเข้าป่าถิ่นไหนแกจึงไม่กลัว เพราะความที่เป็นคนมีวิชาติดตัว มีอยู่ครั้งหนึ่ง แกแบกปืนเข้าป่าไป 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สัตว์สักตัวจึงทำให้แกหงุดหงิดมาก แกจึงตัดสินใจไปที่โป่งโพง ที่ซึ่งชาวบ้านล่ำลือกันว่าผีดุ ไม่มีใครกล้าเข้าไปล่าสัตว์ที่นั่น ด้วยความหงุดหงิดที่เข้าป่ามาถึง 2 วัน แล้วยังไม่ได้สัตว์สักตัว พรานลุมจึงเดินทางไปที่โป่งโพง เดินทางกว่าจะไปถึงก็ดึกสงัดมาก พรานลุมขึ้นไปนั่งคอยดักยิงสัตว์อยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รออยู่เป็นนานก็ไม่มีตัวอะไรผ่านมาเลย แกจึงตะโกนออกมาด้วยความหัวเสียว่า สัตว์มันหายไปไหนกันหมดวะ รึผีป่ามันจะเอาไปกินหมด ไม่เหลือไว้ให้กูล่าบ้างเลยโว้ย! หลังจากตะโกนออกไปได้พักเดียว ก็ปรากฏความเคลื่อนไหวขึ้นที่พื้นป่าด้านล่างทันที พรานลุมรีบเงียบเสียงเพ่งดูว่าเป็นตัวอะไร แกมองว่าเป็นสมเสร็จ สัตว์ซึ่งถือว่าเป็นตัวอัปมงคลของพรานทั้งหลาย เนื่องจากเป็นสัตว์ที่รวมลักษณะของสัตว์หลายอย่างไว้ในตัวเดียวกันไม่มีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง พรานรุ่นเก่าเล่าต่อกันมาว่า ถ้ายิงไปโดนส่วนไหนของสมเสร็จมันจะร้องเป็นเสียงของสัตว์ชนิดนั้น พรานลุมยิ่งโมโหใหญ่ เมื่อเห็นว่าเป็นตัวอะไรเพราะนี่มันตัวอัปมงคลสำหรับพราน ยิ่งหาสัตว์ไม่ได้อยู่ยังมีตัวอัปมงคลโผล่ออกมาอีก ด้วยความโมโหพรานลุมจึงยิงปืนไปที่สมเสร็จตัวนั้น ปรากฏว่ามันมีเสียงร้องออกมาเป็นเสียงหมู พรานลุมจึงชะงักไป แกบอกว่าตอนนั้นงงด้วย เคยแต่ฟังพรานคนอื่นเล่า เพิ่งได้เจอกับตัวเองก็วันนี้นี่เอง ที่เขาว่ายิงโดนส่วนของสัตว์ชนิดไหนมันจะร้องเป็นเสียงของสัตว์ชนิดนั้น แต่สมเสร็จตัวนั้นก็ยังไม่ตาย มันพยายามหนีออกจากที่ตรงนั้น พรานลุมก็พูดว่า ไอ้นี่มันหนังเหนียวแฮะ เอาไปอีกนัดละกัน แล้วยิงซ้ำไปอีกหนึ่งนัด ปัง! คราวนี้มันร้องเป็นเสียงช้างดังลั่นป่า แต่มันก็ยังไม่ตาย […]

กล่องมอญ ของอาถรรพ์จากสวนจตุจักร!

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านของคุณเล็กแถวลำลูกกา เมื่อปี พ.ศ.2554 ส่วนตัวคุณเล็กนั้นชอบสะสมของเก่า ชอบเดินหาของเก่าตามสวนจตุจักร แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ก็นัดกับเพื่อนไปที่สวนจตุจักร เพื่อไปหาดูของเก่า วันนั้นก็มีเพื่อนอีก 3 คน รวมคุณเล็กด้วยเป็น 4 คน คุณเล็กก็เดินไปเรื่อย ๆ และเดินผ่านร้านขายของเก่าร้านหนึ่งที่ขายกล่องไม้ คุณเล็กก็ไปสะดุดตากล่องไม้สีดำฝังมุก เป็นลายไทย สวยมาก ก็ถามลุงเจ้าของร้านว่า พี่นี่กล่องอะไร สวยจัง ลุงเจ้าของร้านตอบว่า ไม่รู้ ก็ไปซื้อเหมา ๆ มา น้องชอบไหมล่ะ พี่พยายามเปิดมาตั้งนานแล้ว แต่เปิดไม่ออก คุณเล็กก็หยิบกล่องขึ้นมาดู ลักษณะของกล่อง กว้าง 10 นิ้ว ยาว 15 นิ้ว เป็นไม้สีมัน ๆ ฝังมุกเป็นลายไทย มีรอยฝาปิด แต่ไม่มีกลอนล็อก ไม่มีรูกุญแจ พอเขย่า ๆ กล่องก็มีเสียง ก็อกแก็ก ๆ อยู่ข้างในกล่อง สุดท้ายแล้วคุณเล็กก็ซื้อกล่องใบนี้มา และเดินมาหาเพื่อน เพื่อนก็ถามว่า ไปซื้อกล่องอะไรมาวะ […]

คืนวันลอยกระทง เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริง วันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ แสงจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมากระทบกับผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับน่าหลงใหล กระทงหลายใบหลากสีสันไหลไปตามสายธาร เทียมที่ปักอยู่ส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วทั้งบริเวณ ดูแล้วช่างตระการตาเสียจริง เพลงลอยกระทงถูกเปิดคลอในงานเทศกาลเบาๆ ลักษณะงานคล้ายคลึงกับงานวัด มีชิงช้าสวรรค์ที่ตกแต่งด้วยหลอดไฟฟลูออกเรสเซนต์หลากสีสัน รอบๆ งานมีร้านขายขนมโบราณนานาชนิดอยู่ทั่วบริเวณ ผู้คนอัดแน่นกันเต็มถนน และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานเทศกาลแบบนี้คือ ร้านขายกระทง ‘แวว’ หญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินเบียดเสียดผู้คนไปตามท้องถนนเพื่อไปหาซื้อกระทงที่จะนำไปลอย ผิวที่ซีดจัดราวกับหิมะของเธอนั้นทำให้หญิงสาวดูโดดเด่นขึ้นมายามที่แสงไฟสีต่างๆ จากหลอดฟลูออเรสเซนต์มากระทบ “กระทงใบละยี่สิบจ้ะ ยายทำเองเลยนะ” แววหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงของหญิงชราคนหนึ่งใบละยี่สิบบาทไม่ใช่จะหากันง่ายๆ สมัยนี้! โชคดีจริงๆ เป็นเรื่องปกติของสาวๆ ที่เมื่อเวลาเห็นของถูกหูตาก็จะแวววาวเป็นพิเศษ หญิงสาวรีบเดินแหวกผู้คนเข้าไปข้างทางทันที โต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ แบบพับเก็บได้ตั้งตระหง่าอยู่ระหว่างร้านขายขนมทั้งสองข้าง หญิงชราสวมเสื้อลายกล้วยไม้สีม่วงกับโจงกระเบนสีฟ้าที่กำลังนั่งพัดตนเองด้วยพัดสานอยู่บนเก้าอี้พลาสติกรีบเอ่ยทักหญิงสาวทันทีที่เห็นเธอเดินใกล้เข้ามา “แม่หนูสนใจกระทงยายมั้ย ยี่สิบบาทเอง” ทำไมจะไม่สน เป็นใครใครก็สน! กระทงใบตองสิบกว่าใบเรียงรายกันอยู่บมโต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนกัน รอบตัวกระทงพับใบตองเป็นแบบกลีบผกา ภายในตกแต่งด้วยดอกบานไม่รู้โรยและดอกดาวเรือง มีธูปปักอยู่สามดอกและเทียนอีกหนึ่งเล่ม “เอาใบนึงค่ะยาย” หญิงสาวเอ่ยพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากเป้สะพายหลัง แล้วควักแบงค์ยี่สิบออกมาส่งให้หญิงชรา ไม่รู้แววรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เหมือนว่ากระทงเหล่านั้นกำลังเรียกเธออยู่ เลือกฉันสิเลือกฉัน […]

ตุ๊กแกผี เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

‘งามตา’ เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตุ๊กแกผีสิง สมัยเด็กดิฉันอยู่ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ่อแม่ทำงานโรงบ่มยาของโรงงานยาสูบ มีบ้านพักเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ปลูกเรียงรายกันไปใกล้ๆ โรงบ่มยานั่นแหละค่ะ ตอนเย็นๆ เราจะลงไปอาบน้ำในลำโขง ลมพัดแรงเย็นสบาย หนุ่มสาวชอบนั่งเล่นรับลมบนหาด บ้างก็หาอะไรไปล้อมวงกินกัน เด็กๆ วิ่งเล่นเกรียวกราวน่าสนุก บ้านพักของเราน่าแปลกคือมีห้องน้ำอยู่ข้างนอกชานเชิงบันได ตอนกลางคืนเปิดไฟสว่าง ออกมานั่งรับลมที่ห้องรับแขกถัดจากระเบียง พ่อชอบฟังข่าวจากวิทยุ แม่จัดห้องนอน ดิฉันนั่งเล่นใกล้ๆ พ่อ มองไปข้างนอกก็มืดสลัว ที่โรงบ่มเคยคึกคักตอนกลางวันยิ่งดูมืดกว่าที่อื่น ขนาดอยู่จนชินแล้วยังอดหวาดๆ ไม่ได้เลยค่ะ ระแวงว่าจะมีใครจ้องมองเข้ามาอย่างมุ่งร้ายหมายขวัญหรือเปล่าก็ไม่รู้? คืนไหนอากาศหนาวๆ ลมพัดมาเย็นวูบ เล่นเอาขนลุกซ่าไปทั้งตัวก็เคยไม่รู้ว่ากลัวอะไรเหมือนกัน ‘ตั๊บแก! ตั๊บแกตั๊บแก’ เสียงร้องดังขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันชินเสียแล้ว เพราะได้ยินมาตั้งแต่จำความได้แน่ะค่ะ สาเหตุเพราะมีตุ๊กแกอยู่ในห้องน้ำ ยั้วเยี้ยมากมายหลายสิบตัว มีเยอะแยะทุกบ้าน จนเด็กๆ คุ้นเคยตุ๊กแกกันทุกคน คนเก่าเรียกคับแค’ ก็มีค่ะ อย่างคางคกเรียกคันคาก’ ขนาดมีตำนานเก่าแก่เล่าถึงพญาคันคาก’ พวกผู้ใหญ่ก็จดจำสืบต่อกันมาเล่าให้เด็กๆ ฟัง เหตุนี้ทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่โดยไม่กลัว และไม่ขยะแขยงตุ๊กแกอย่างผู้หญิงส่วนมาก วันนี้มีเรื่องตุ๊กแกผีมาเล่าสู่กันฟังค่ะ! คุณผู้หญิงทั่วไปเอ่ยถึงตุ๊กแกก็ขนลุกแล้ว คิดอีกทีก็น่าเห็นใจเพราะรูปร่างหน้าตามันน่าเกลียดน่ากลัวจริงๆ บางคนขนาดได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องถึงกับสะดุ้งโหยงก็มี ลือกันว่า ตุ๊กแกโดดเกาะหลังใคร […]