กล่องมอญ ของอาถรรพ์จากสวนจตุจักร!

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านของคุณเล็กแถวลำลูกกา เมื่อปี พ.ศ.2554 ส่วนตัวคุณเล็กนั้นชอบสะสมของเก่า ชอบเดินหาของเก่าตามสวนจตุจักร แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ก็นัดกับเพื่อนไปที่สวนจตุจักร เพื่อไปหาดูของเก่า วันนั้นก็มีเพื่อนอีก 3 คน รวมคุณเล็กด้วยเป็น 4 คน คุณเล็กก็เดินไปเรื่อย ๆ และเดินผ่านร้านขายของเก่าร้านหนึ่งที่ขายกล่องไม้ คุณเล็กก็ไปสะดุดตากล่องไม้สีดำฝังมุก เป็นลายไทย สวยมาก ก็ถามลุงเจ้าของร้านว่า พี่นี่กล่องอะไร สวยจัง ลุงเจ้าของร้านตอบว่า ไม่รู้ ก็ไปซื้อเหมา ๆ มา น้องชอบไหมล่ะ พี่พยายามเปิดมาตั้งนานแล้ว แต่เปิดไม่ออก คุณเล็กก็หยิบกล่องขึ้นมาดู ลักษณะของกล่อง กว้าง 10 นิ้ว ยาว 15 นิ้ว เป็นไม้สีมัน ๆ ฝังมุกเป็นลายไทย มีรอยฝาปิด แต่ไม่มีกลอนล็อก ไม่มีรูกุญแจ พอเขย่า ๆ กล่องก็มีเสียง ก็อกแก็ก ๆ อยู่ข้างในกล่อง สุดท้ายแล้วคุณเล็กก็ซื้อกล่องใบนี้มา และเดินมาหาเพื่อน เพื่อนก็ถามว่า ไปซื้อกล่องอะไรมาวะ […]

คืนวันลอยกระทง เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริง วันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ แสงจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมากระทบกับผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับน่าหลงใหล กระทงหลายใบหลากสีสันไหลไปตามสายธาร เทียมที่ปักอยู่ส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วทั้งบริเวณ ดูแล้วช่างตระการตาเสียจริง เพลงลอยกระทงถูกเปิดคลอในงานเทศกาลเบาๆ ลักษณะงานคล้ายคลึงกับงานวัด มีชิงช้าสวรรค์ที่ตกแต่งด้วยหลอดไฟฟลูออกเรสเซนต์หลากสีสัน รอบๆ งานมีร้านขายขนมโบราณนานาชนิดอยู่ทั่วบริเวณ ผู้คนอัดแน่นกันเต็มถนน และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานเทศกาลแบบนี้คือ ร้านขายกระทง ‘แวว’ หญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินเบียดเสียดผู้คนไปตามท้องถนนเพื่อไปหาซื้อกระทงที่จะนำไปลอย ผิวที่ซีดจัดราวกับหิมะของเธอนั้นทำให้หญิงสาวดูโดดเด่นขึ้นมายามที่แสงไฟสีต่างๆ จากหลอดฟลูออเรสเซนต์มากระทบ “กระทงใบละยี่สิบจ้ะ ยายทำเองเลยนะ” แววหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงของหญิงชราคนหนึ่งใบละยี่สิบบาทไม่ใช่จะหากันง่ายๆ สมัยนี้! โชคดีจริงๆ เป็นเรื่องปกติของสาวๆ ที่เมื่อเวลาเห็นของถูกหูตาก็จะแวววาวเป็นพิเศษ หญิงสาวรีบเดินแหวกผู้คนเข้าไปข้างทางทันที โต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ แบบพับเก็บได้ตั้งตระหง่าอยู่ระหว่างร้านขายขนมทั้งสองข้าง หญิงชราสวมเสื้อลายกล้วยไม้สีม่วงกับโจงกระเบนสีฟ้าที่กำลังนั่งพัดตนเองด้วยพัดสานอยู่บนเก้าอี้พลาสติกรีบเอ่ยทักหญิงสาวทันทีที่เห็นเธอเดินใกล้เข้ามา “แม่หนูสนใจกระทงยายมั้ย ยี่สิบบาทเอง” ทำไมจะไม่สน เป็นใครใครก็สน! กระทงใบตองสิบกว่าใบเรียงรายกันอยู่บมโต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนกัน รอบตัวกระทงพับใบตองเป็นแบบกลีบผกา ภายในตกแต่งด้วยดอกบานไม่รู้โรยและดอกดาวเรือง มีธูปปักอยู่สามดอกและเทียนอีกหนึ่งเล่ม “เอาใบนึงค่ะยาย” หญิงสาวเอ่ยพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากเป้สะพายหลัง แล้วควักแบงค์ยี่สิบออกมาส่งให้หญิงชรา ไม่รู้แววรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เหมือนว่ากระทงเหล่านั้นกำลังเรียกเธออยู่ เลือกฉันสิเลือกฉัน […]

ตุ๊กแกผี เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

‘งามตา’ เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตุ๊กแกผีสิง สมัยเด็กดิฉันอยู่ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ่อแม่ทำงานโรงบ่มยาของโรงงานยาสูบ มีบ้านพักเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ปลูกเรียงรายกันไปใกล้ๆ โรงบ่มยานั่นแหละค่ะ ตอนเย็นๆ เราจะลงไปอาบน้ำในลำโขง ลมพัดแรงเย็นสบาย หนุ่มสาวชอบนั่งเล่นรับลมบนหาด บ้างก็หาอะไรไปล้อมวงกินกัน เด็กๆ วิ่งเล่นเกรียวกราวน่าสนุก บ้านพักของเราน่าแปลกคือมีห้องน้ำอยู่ข้างนอกชานเชิงบันได ตอนกลางคืนเปิดไฟสว่าง ออกมานั่งรับลมที่ห้องรับแขกถัดจากระเบียง พ่อชอบฟังข่าวจากวิทยุ แม่จัดห้องนอน ดิฉันนั่งเล่นใกล้ๆ พ่อ มองไปข้างนอกก็มืดสลัว ที่โรงบ่มเคยคึกคักตอนกลางวันยิ่งดูมืดกว่าที่อื่น ขนาดอยู่จนชินแล้วยังอดหวาดๆ ไม่ได้เลยค่ะ ระแวงว่าจะมีใครจ้องมองเข้ามาอย่างมุ่งร้ายหมายขวัญหรือเปล่าก็ไม่รู้? คืนไหนอากาศหนาวๆ ลมพัดมาเย็นวูบ เล่นเอาขนลุกซ่าไปทั้งตัวก็เคยไม่รู้ว่ากลัวอะไรเหมือนกัน ‘ตั๊บแก! ตั๊บแกตั๊บแก’ เสียงร้องดังขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันชินเสียแล้ว เพราะได้ยินมาตั้งแต่จำความได้แน่ะค่ะ สาเหตุเพราะมีตุ๊กแกอยู่ในห้องน้ำ ยั้วเยี้ยมากมายหลายสิบตัว มีเยอะแยะทุกบ้าน จนเด็กๆ คุ้นเคยตุ๊กแกกันทุกคน คนเก่าเรียกคับแค’ ก็มีค่ะ อย่างคางคกเรียกคันคาก’ ขนาดมีตำนานเก่าแก่เล่าถึงพญาคันคาก’ พวกผู้ใหญ่ก็จดจำสืบต่อกันมาเล่าให้เด็กๆ ฟัง เหตุนี้ทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่โดยไม่กลัว และไม่ขยะแขยงตุ๊กแกอย่างผู้หญิงส่วนมาก วันนี้มีเรื่องตุ๊กแกผีมาเล่าสู่กันฟังค่ะ! คุณผู้หญิงทั่วไปเอ่ยถึงตุ๊กแกก็ขนลุกแล้ว คิดอีกทีก็น่าเห็นใจเพราะรูปร่างหน้าตามันน่าเกลียดน่ากลัวจริงๆ บางคนขนาดได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องถึงกับสะดุ้งโหยงก็มี ลือกันว่า ตุ๊กแกโดดเกาะหลังใคร […]

บริการประทับใจ เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

ผมได้พักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง โดยอพาร์ทเม้นท์ที่ผมอาศัยอยู่นั้นเป็นอาคารไม่ใหญ่มาก มีทั้งหมด 4 ชั้น ในแต่ละชั้นก็จะประกอบไปด้วยห้องประมาณ 9-10 ห้อง ตัวผมเองพึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ได้ไม่นาน เนื่องจากราคาเช่าไม่แพงและอยู่ใกล้กับโรงเรียนด้วย ผมเลยคิดว่าการอาศัยอยู่ที่นี่ทั้งคุ้มค่าและก็สะดวกสบาย นอกจากนั้นอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับร้านค้าต่าง ๆ และก็อยู่ติดกับถนน ทำให้การสั่งของจากร้านอาหารมาทานที่ห้องจะทำได้ง่ายมาก ๆ ในช่วงสัปดาห์แรกที่ผมอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์นั้น เรื่องราวทุกอย่างก็เป็นปกติดี มีเพื่อนแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมที่ห้องบ้างและผมก็มักจะสั่งอาหารมาทานในช่วงดึก ๆ ตอนเวลาที่ผมต้องนั่งทำรายงานหรือว่าอ่านหนังสือ พออยู่ไปเข้าสัปดาห์ที่ 2 เหตุการณ์แปลก ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น คืนหนึ่งขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ ตอนนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ก็มีเสียงกดกริ่งที่หน้าประตู ตอนแรกในใจก็คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ที่บางครั้งบางคราวก็จะมีเพื่อนบ้านแวะมานั่งเล่นในห้อง แต่ว่าพอเปิดประตูออกไปดู ผมก็เห็นพนักงานจากร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งยืนถือกล่องพิซซ่าอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจก็คือ แม้ว่าชายคนนี้จะใส่ชุดพนักงานของร้านอย่างเต็มยศ แต่ว่าเสื้อผ้าหน้าตาของชายคนนี้กลับดูมอมแมมไม่สะอาดสะอ้าน ซึ่งค่อนข้างผิดวิสัยสำหรับผู้ที่ทำอาชีพให้บริการเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งคืนนั้นผมเองไม่ได้สั่งพิซซ่ามาทาน และจริง ๆ แล้วก็ไม่เคยใช้บริการของร้านนี้มาก่อนด้วยซ้ำ ผมก็เลยบอกกับทางพนักงานคนนั้นว่า ห้องผมไม่ได้สั่งพิซซ่าครับ น่าจะเป็นของห้องอื่นมากกว่า พนักงานชายคนนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่ง มองมาทางผม ทำปากขมุบขมิบ พึมพำ ๆ อะไรสักอย่างซึ่งผมจับใจความไม่ได้ ตอนนั้นรู้สึกแปลก ๆ และก็ไม่ค่อยดีนัก ผมก็เลยบอกย้ำอีกครั้งนึงว่า […]

“บาตรแตก” อาถรรพ์คุณไสย อวิชชาไสยดำ

ลุงวงค์ เป็นผู้ให้ข้อมูลว่า “บาตรพระแตก” เป็นไสยดำอีกประเภทหนึ่งที่มีอันตราย ถ้าหมอคุณไสยไม่เก่งจริงและไม่มีฝีมือทางไสยศาสตร์เวทมนต์อาคม รับรองว่าแก้และถอนไม่ได้เป็นอันขาด ยกเว้นผู้รู้และผู้เรืองอาคมเท่านั้นที่จะแก้ล้างอาถรรพ์ของบาตรพระแตกนี้ได้ พร้อมกับเผยว่า มีหลานชายของแกไปแต่งงานกับหญิงต่างหมู่บ้าน ซึ่งก่อนจะได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมีย หลานชายต้องผ่านด่านอรหันต์มา เลือดตาแทบกระเด็นเนื่องจากมีคู่แข่งหลายคน แต่ละคนล้วนแต่มีดีกันทั้งนั้น อาทิ เป็นลูกชายของกำนันผู้มีอิทธิพล เป็นลูกของผู้กว้างขวาง เป็นลูกของข้าราชการและอื่นๆ สำหรับญาติคนนี้เป็นลูกชาวนาแล้วยังเป็นคนต่างถิ่นอีกด้วย แกยังเคยห้ามหลานชายมิให้ไปแย่งผู้หญิงคนเดียวกันกับคนอื่น พอมีปัญหาแล้วกลัวจะสู้คนพวกนั้นไม่ได้ แต่ก็ให้กำลังใจหลานชายให้ประสบความสมหวัง และนึกไม่ถึงว่ามีใครสักคนเล่นของไสยดำ ซึ่งเป็นอีกวิธีที่สกปรก น่าเป็นห่วงและอันตราย ไม่เหมือนวิธีลอบยิงซึ่งหากดวงเราไม่ขาดไม่ต้องกลัว ปรากฏว่าหลานชายของแกได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ หลังจากชิงดีชิงเด่นกับหนุ่มๆ หลายคนในหมู่บ้านและคนต่างถิ่น นึกว่าเรื่องจะจบลงด้วยดีแต่ผิดคาด ปรากฏว่าหลานชายของแกเจอดีถูกจองเวรตามกัดไม่ปล่อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นหมาลอบกัดลับหลัง จนเดือดร้อนมาถึงแกที่ต้องไปช่วย ทั้งที่เคยเตือนและบอกหลานชายให้ระวังตัวเสมอ แต่หลานไม่เคยเชื่อที่แกแนะนำเรื่องมันถึงได้วุ่นวายไม่จบ ถ้าไม่เห็นแก่ญาติผู้ใหญ่แกจะไม่ไปช่วยหลานชายคนนี้เลย หมั่นไส้ที่มันไม่ฟัง แต่ก็ยอมรับในฝีมือหลานชายที่สามารถคว้าผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียได้ แกเท้าความหลังให้ฟังว่า หลังจากแต่งงานได้ 6 เดือน ยังอยู่ในระหว่างข้าวใหม่ปลามันตามประสาหนุ่มสาว พอย่างเข้าเดือนที่ 7 หลานชายคนนี้ก็มีความผิดปกติเกิดขึ้นเป็นคนละคน จากเป็นคนดีดี กลายมาเป็นคนเสียสติทะเลาะกับคนในบ้านทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เมียตัวเอง จนบ้านร้อนระอุเต็มไปด้วยไฟแห่งความเดือดร้อน สาเหตุเพราะมีคนเอาบาตรพระแตกแอบมาฝังไว้ในดินใต้ถุนบ้านนั่นเอง เจตนาเพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวของญาติคนนี้ ทุกครั้งที่หลานชายทะเลาะกับเมียหรือคนในบ้าน จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา ทำให้คนในบ้านของเมียหวาดกลัว ช่วยกันจับเอาเชือกมัดตัวล่ามเอาไว้มิให้อาละวาด […]

เปียก! เรื่องเล่าสยองขวัญ

ประสบการณ์ของคุณนัท เรื่องมันมีอยู่ว่า สมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้วต้องไปฝึกงานตามโรงแรม ก็ยกแก๊งกันไปฝึกงานที่ภูเก็ต แล้วก็ไปอาศัยนอนตามบ้านว่างๆ ของคนที่เพื่อนรู้จัก เค้าไม่คิดค่าเช่าเลย คิดแต่ค่าน้ำค่าไฟ สิ่งที่แปลกก็คือบ้านหลังนี้เป็นหลังเดียวในหมู่บ้านที่ไม่มีศาลพระภูมิ แต่เพื่อนๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มีแต่คุณนัทที่รู้สึกไม่ค่อยดีอยู่คนเดียว ก็เลยชวนเพื่อนจุดธูปไหว้เจ้าที่กัน ผ่านไปเดือนนึงก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ มีแค่ความรู้สึกเหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลาของคุณนัทเพียงคนเดียว วันหนึ่งทั้งแก๊งก็ยกพวกไปเที่ยวกันในตัวเมือง แต่พอขากลับเพื่อนคุณนัทเป็นคนขับ พอขับมาจะถึงบ้านแทนที่จะจอดรถกลับขับเลยตัวบ้านไปเลย คุณนัทก็สงสัยว่าจะขับเลยบ้านทำไม ลืมบ้านตัวเองเหรอ เพื่อนก็ถามกลับว่าเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวๆ นั่งหน้าบ้านไหม ซึ่งคุณนัทก็ไม่เห็นว่ามีใครเลย พอขับวนกลับมาดูอีกรอบคุณนัทก็ลงไปดูเองกับตา ก็ไม่เห็นมีใคร เพื่อนก็เลยขับเข้ามาจอดตามปกติ ขณะที่ทุกคนลงจากรถเตรียมจะเข้าบ้านนั้นเอง หมวกกันน็อคที่วางคว่ำไว้อยู่แถวนั้น อยู่ดีๆ ก็หงายขึ้นมาเองเฉยๆ ทั้งที่ไม่มีลมหรืออะไรไปสัมผัสเลย ทุกคนตกใจก็รีบวิ่งเข้าบ้านกันหมด คืนนั้นระหว่างที่นอนๆ อยู่ คุณนัทก็ฝันว่าลงไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล้วมานั่งกินตรงห้องนั่งเล่น กินเสร็จก็จะมานอน ตอนนั้นเองก็เห็นผู้หญิงคนนึงใส่ชุดคนไข้ของโรงพยาบาล ผมยาวปิดหน้า มายืนชี้หน้าบอกว่าพวกมึงเก็บให้หมดเลยนะ เดี๋ยวนี้เลย!’ แล้วคุณนัทก็ตื่น พอตื่นมาก็เห็นว่าบ้านตัวเองนั้นรกมากเพราะอยู่กันตามประสาชายหนุ่ม เลยเข้าใจว่าเค้าคงมาบอกให้เก็บบ้าน แต่เพื่อนที่อยู่ข้างๆ นั้นก็ตื่นอยู่เหมือนกันแล้วก็งงว่าคุณนัทเป็นอะไร เพราะคุณนัทนอนๆ อยู่แล้วก็พูดว่าพวกมึงเก็บให้หมดเลยนะ แต่เสียงที่ออกมานั้นเป็นเสียงผู้หญิง ไม่ใช่เสียงคุณนัท! หลังจากเหตุการณ์นี้ทุกคนก็เริ่มกลัวๆ กัน แต่คุณนัทก็บอกว่าไม่มีอะไรมากหรอก ก็เราทำบุญจุดธูปไหว้ไปแล้วนี่ ทั้งที่ในใจคุณนัทเองก็ยังหวั่นๆ นั่นแหละ วันหนึ่งเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันไปเที่ยวแล้วไปนอนตามบ้านสาวบ้าง บ้านเพื่อนบ้าง เหลือคนนอนที่บ้านหลังนี้แค่สี่คน คุณนัทก็เหมือนจะฝันอีก […]

เวรกรรม เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของคุณวี อยากฝากไว้ให้เป็นแง่คิดเตือนใจเพราะเป็นเรื่องของการทำบาป เพราะคุณวีต้องการให้ผู้ที่คิดจะทำผิดเปลี่ยนใจหันมาเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง เรื่องสยองนี้ทำให้คุณวีเชื่อแล้วว่า บาปกรรมนั้นมีจริง ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว คุณวีศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รู้จักกับเพื่อนชาวไทยที่ศึกษาในสถาบันเดียวกันหลายคน และคุณวีก็ได้รู้จักกับคุณแอน (นามสมมติ) เจ้าของเรื่องที่คุณวีกำลังจะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ หลังจากที่แอนเรียนจบ ก็เดินทางกลับมาประเทศไทย ส่วนตัวคุณวียังคงอยู่ต่อที่อเมริกา ระหว่างที่คุณวีอยู่ที่อเมริกาก็ได้ยินข่าวของแอนจากเพื่อนๆ คนอื่น ว่าแอนได้เข้าทำงานและก็พบรักกับลูกชายเจ้าของบริษัทที่แอนทำงานอยู่ เวลาล่วงผ่านไปประมาณ 2 ปี คุณวีก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง ว่าแอนกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของบริษัทคนนั้น จึงเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองงานแต่งงานของคุณแอน ในเวลานั้นวีรู้สึกดีใจกับแอนที่มีครอบครัวแสนสุขและเพรียบพร้อมไปด้วยเงินทอง หลังจากงานแต่งของแอน วีก็เดินทางกลับอเมริกา แล้วก็ขาดการติดต่อกับแอนไป จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว วีตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อมาดูแลคุณพ่อคุณแม่ ก็ได้ยินข่าวของแอนอีกครั้ง ว่าเธอมีลูกสาว 2 คนและกำลังลำบากมาก บ้านกำลังจะถูกยึด รถที่มีก็ถูกยึดไปแล้วทุกคัน มีหนี้สินท่วมตัว บริษัทของสามีซึ่งเปิดมานาน 30 ปีก็ต้องปิดกิจการลงและอยู่ในฐานะล้มละลาย วีพยายามติดต่อกับแอนหลังจากทราบข่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เพราะว่าแอนย้ายที่อยู่ไปไหนไม่มีใครทราบ จนเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ข่าวของแอนจากเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า พบเจอแอนไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ วีรู้สึกตกใจมากและเป็นห่วง จึงรีบเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อจะรอพบกับแอน เพราะต้องการจะช่วยเหลือเธอ หลังจากที่วีเดินทางไปพบกับแอนแล้ว วีรู้สึกสงสารแอนจับใจ แอนเปลี่ยนไปมาก […]

โรงแรมผีไบเทคบางนา เรื่องเล่าสยองขวัญ

เริ่มเลยนะคะ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหาคม 2556 ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า แม่และทางสำนักงานต้องไปจัดบูธและเข้าประชุมในกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ BITEC บางนา แต่ทางสำนักงานของแม่ถูกจัดให้เข้าร่วมงาน วันที่ 13 สิงหาค่ะ ซึ่งพวกเราเลยเลือกเดินทางกันเช้า 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า เราและน้องสาวก็ติดสอยห้อยตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้ไปเป็นเพื่อน 12 ชั่วโมงด้วยรถตู้จากขอนแก่นถึงกรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก ขาเข้ากรุงเทพติดแหงก จราจรเป็นอัมพาต เพราะคนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดพอดีค่ะ โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่าแบบดีๆ หลายดาวที่จองไว้ก็มี แต่ก็ป่วยการ เมื่อมาถึงบางนาประมาณ 4 เกือบ 5 ทุ่ม ฝนตกหนัก ถนนน้ำท่วม มองไม่เห็นทาง จะไปโรงแรมที่จองไว้ก็ไม่ได้ เพราะฝนตกหนักมากค่ะ ก็เลยพากันตัดสินใจว่า จะหาโรงแรมแถวไบเทคนอนเลยละกัน ตื่นเช้ามาจะได้ไปง่ายๆ รถไม่ติดเท่าไหร่ (ลืมบอกไปค่ะ มีสมาชิกไปกัน 6 คนมีเรา น้องสาว แม่ ลุงที่ทำงานแม่ […]

กลางดงดิบ | นางรำหม่องส่วยยี! อาถรรพ์ป่าพม่า

เกริ่นก่อนอ่าน: ในเรื่องเล่าต่อไปนี้ อาจมีตัวอักษรภาษาอังกฤษหรืออักษรที่มีลักษณะใกล้เคียงแทรกเข้ามาผสมในบางคำ วัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงคำที่sุนแsง เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของนายพรานคนหนึ่งที่ชื่อว่า พรานแดง ต้องขอเท้าความไปในอดีต จากที่เคยเป็นเด็กวัยรุ่น ยิงนก ตกปลา ตามประสาชาวบ้านป่า แต่แล้วก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ลุงแดง พรานรุ่นเยาว์กลายเป็น พรานแดง ผู้ช่ำชองเรื่องป่าและเป็นพรานประจำหมู่บ้านเหมือนอย่างในปัจจุบัน ในขณะนั้นหมู่บ้านมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น โดยคนในหมู่บ้านทยอยกันล้มตๅยโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการก่อนตๅยคล้ายคนโดนผีเข้า ไม่นานนักก็มีการปรากฏตัวขึ้นของนายพรานคนหนึ่งซึ่งมาจากฝั่งพม่า ผู้อาสาเข้ามาจัดการกับสิ่งที่กำลังกัดกินคนในหมู่บ้าน สิ่งนั้นมันคือ ผีป่า! ซึ่งในตอนนั้นคนในหมู่บ้านไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าผีป่าคืออะไรและจะจัดการกับมันยังไง โดยชาวบ้านต่างเรียกนายพรานผู้มาจากต่างถิ่นคนนี้ว่า ลุงหม่อง ลุงแดงพรานฝึกหัดเห็นนายพรานผู้เจนป่าก็เกิดความสนใจ จึงขอติดตามลุงหม่องเข้าป่าเพื่อขอดูวิธีการจัดการกับผีร้ายว่าเขาทำกันอย่างไร โดยที่ลุงหม่องได้บอกกับลุงแดงว่า เดี๋ยวข้าจะพาไปดูอะไร ถ้าเอ็งไม่เชื่อว่าผีป่ามีจริง เดี๋ยวข้าจะทำอะไรให้ดู สิ่งที่ลุงหม่องพูดถึง นั่นคือการนำร่างของคนตๅยศwล่าสุด ใช้เชือกผูกมัดขาแล้วนำร่างไปแขวนกับห้างสูงในลักษณะห้อยหัวลง จนความมืดมาเยือน วิธีการพิสูจน์อะไรบางอย่างก็ได้เริ่มขึ้น สิ่งที่เอ็งเห็นเป็นศwมันยังไม่ตๅย ผีป่ายังอยู่ในร่างมัน ลุงหม่องว่า จากนั้นลุงหม่องก็ให้ลุงแดงใช้ปืuกระหน่ำยิงไปยังร่างที่ห้อยต่องแต่งอยู่เบื้องหน้า สักพักก็มีเสียงหัวเราะดังลั่นป่าและศwที่ห้อยหัวอยู่นั้นมันก็กระดิก! ซึ่งในขณะที่มันกระดิกตัวและส่งเสียงหัวเราะอยู่นั้น มันก็ถุยกระสุนที่โดนสาดยิงก่อนหน้านี้ออกทางปากอีกด้วย นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของลุงแดงที่ได้เห็นอะไรที่ชวนสะพรึงเช่นนี้ แล้วจะจัดการมันยังไงล่ะลุงหม่อง ลุงแดงว่าเสียงสั่น ไม่ต้องรอให้ถามต่อ ลุงหม่องรีบปีนขึ้นห้างสูง จากนั้นก็บริกรรมคาถาใส่ปืuแล้วยิงแสกหน้าศwที่มีผีป่าสิงสู่ เสียงดัง ปัง! ตามด้วยเสียงร้องโหยหวนของผีร้ายที่ดังขึ้นแทรกฝ่าความมืดและหนีหายเข้าไปในป่าลึก จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ลุงแดงฝากตัวเป็นศิษย์ของลุงหม่องผู้มีฝีมือและเข้มขลังไปด้วยอาคม […]

คุณไสยกระดูกผี เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

เมื่อไม่นานมานี้​ เรามีโอกาสได้อ่านดวงจากนักพยากรณ์​ท่านหนึ่ง​ ว่าด้วยเรื่อง​ ราศีไหนกำลังจะโดนคุณไสย​ โดนคนทำของไม่ดีใส่​ เจออะไรค่ำ ๆ มืด ๆ ห้ามทัก​ พออ่านจบ​ อ้าว​นี่มันราศีเรานี่นา​ เเต่ตอนนั้นก็คิดว่ามันคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง​ เเต่ลึก ๆ แล้วก็บอกตัวเองว่า ระวังไว้หน่อยก็ดี จนเวลาผ่านไปอาทิตย์​กว่า​ วันนั้นเป็นช่วงบ่าย เราสังเกตุ​เห็นเงาคล้ายคนวิ่งไปวิ่งมา​ที่หน้าบ้าน​ ตอนนั้นเราลืมนึกเรื่องที่อ่านดวงไปเสียสนิท​ เราเลยตะโกนถามออกไป นั่นใครน่ะ​ แล้วเงานั้นก็หายไป​ จนตกค่ำเราได้กลิ่นเหม็นเน่าจากหน้าบ้าน​ กลิ่นเเรงมาก แต่แปลกที่คนในบ้านกลับไม่มีใครได้กลิ่นเลย​ กลิ่นแรงจนเวียนหัว จนเราเผลอสบถขึ้นมาว่า กลิ่นเ_ี้ยอะไรวะเนี่ย​ อะไรตายวะ! พอเราพูดจบ แม่หันมาตีเเขน​ มันดึกมันดื่นจะพูดทำไม? เราเลยบอกแม่ว่ามันเหม็น​ จนสุดท้ายเราก็หนีขึ้นไปนอน​ คืนนั้นเวลาประมาณ​ตี 2 เราสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ​ เรียกอยู่นานมาก​ เสียงนั้นเย็นยะเยือก​จนน่าขนลุก​ เเต่เราก็ไม่ขานรับ​ ได้เเต่นอนกอดหมอนข้างข่มใจไว้​ด้วยความกลัว จนถึงช่วงเช้ามืด​ เราได้ยินเสียงเเม่เอะอะ​โวยวายลั่นบ้าน​ ตะโกนถามคนในบ้าน ปลุกจนตื่นหมดทุกคน ญาติข้าง ๆ บ้านก็ตกใจตื่น กำลังจะวิ่งมาที่บ้าน​ แต่ต้องชะงัก​เพราะตรงหน้าบ้านมีกองผงถ่านสีเทา ๆ ดำ ๆ […]