เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่พรานล่าสัตว์เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ชวนขนลุกไปป่าลึก
พราณลุม เป็นพรานเฒ่าอายุเยอะมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นพรานที่เจนป่าอยู่ คนรุ่นเดียวกับแกต่างก็เลิกเป็นพรานไปหมดแล้ว แต่แกก็ยังใช้ชีวิตเป็นพรานป่าเก็บของป่ามาขายในเมืองบ้าง ล่าสัตว์มาขายบ้าง นำทางให้นักท่องเที่ยวบ้าง ถึงอายุจะเยอะ แกก็เป็นพรานที่มีคาถาอาคม ไม่ว่าจะเข้าป่าถิ่นไหนแกจึงไม่กลัว เพราะความที่เป็นคนมีวิชาติดตัว
มีอยู่ครั้งหนึ่ง แกแบกปืนเข้าป่าไป 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สัตว์สักตัวจึงทำให้แกหงุดหงิดมาก แกจึงตัดสินใจไปที่โป่งโพง ที่ซึ่งชาวบ้านล่ำลือกันว่าผีดุ ไม่มีใครกล้าเข้าไปล่าสัตว์ที่นั่น ด้วยความหงุดหงิดที่เข้าป่ามาถึง 2 วัน แล้วยังไม่ได้สัตว์สักตัว พรานลุมจึงเดินทางไปที่โป่งโพง
เดินทางกว่าจะไปถึงก็ดึกสงัดมาก พรานลุมขึ้นไปนั่งคอยดักยิงสัตว์อยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รออยู่เป็นนานก็ไม่มีตัวอะไรผ่านมาเลย แกจึงตะโกนออกมาด้วยความหัวเสียว่า สัตว์มันหายไปไหนกันหมดวะ รึผีป่ามันจะเอาไปกินหมด ไม่เหลือไว้ให้กูล่าบ้างเลยโว้ย!
หลังจากตะโกนออกไปได้พักเดียว ก็ปรากฏความเคลื่อนไหวขึ้นที่พื้นป่าด้านล่างทันที พรานลุมรีบเงียบเสียงเพ่งดูว่าเป็นตัวอะไร แกมองว่าเป็นสมเสร็จ สัตว์ซึ่งถือว่าเป็นตัวอัปมงคลของพรานทั้งหลาย เนื่องจากเป็นสัตว์ที่รวมลักษณะของสัตว์หลายอย่างไว้ในตัวเดียวกันไม่มีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง
พรานรุ่นเก่าเล่าต่อกันมาว่า ถ้ายิงไปโดนส่วนไหนของสมเสร็จมันจะร้องเป็นเสียงของสัตว์ชนิดนั้น พรานลุมยิ่งโมโหใหญ่ เมื่อเห็นว่าเป็นตัวอะไรเพราะนี่มันตัวอัปมงคลสำหรับพราน ยิ่งหาสัตว์ไม่ได้อยู่ยังมีตัวอัปมงคลโผล่ออกมาอีก ด้วยความโมโหพรานลุมจึงยิงปืนไปที่สมเสร็จตัวนั้น
ปรากฏว่ามันมีเสียงร้องออกมาเป็นเสียงหมู พรานลุมจึงชะงักไป แกบอกว่าตอนนั้นงงด้วย เคยแต่ฟังพรานคนอื่นเล่า เพิ่งได้เจอกับตัวเองก็วันนี้นี่เอง ที่เขาว่ายิงโดนส่วนของสัตว์ชนิดไหนมันจะร้องเป็นเสียงของสัตว์ชนิดนั้น แต่สมเสร็จตัวนั้นก็ยังไม่ตาย มันพยายามหนีออกจากที่ตรงนั้น พรานลุมก็พูดว่า
ไอ้นี่มันหนังเหนียวแฮะ เอาไปอีกนัดละกัน แล้วยิงซ้ำไปอีกหนึ่งนัด ปัง!
คราวนี้มันร้องเป็นเสียงช้างดังลั่นป่า แต่มันก็ยังไม่ตาย มันยังคงพยายามเดินเข้าป่าไปให้พ้นจากที่ตรงนั้น พรานลุมตอนนั้นตะลึงที่ได้ยินเสียงสัตว์ถึงสองชนิดจากสัตว์ตัวเดียว แกกลับโกรธที่เสียกระสุนไปถึง 2 นัด แต่สัตว์สมเสร็จตัวนี้ก็ยังไม่ตาย
แกเล่นยิงซ้ำไปอีกทีเป็นนัดที่สาม กะเอาให้ตาย แต่คราวนี้แกถึงกับช็อก! แกบอกว่ากระสุนถูกตัวสมเสร็จแต่เสียงที่แกได้ยินคราวหลังสุดนี้ ก่อนที่สมเสร็จจะหนีหายเข้าไปในป่า กลับเป็นเสียงคนร้องอย่างเจ็บปวด
โอยยย อ้ากกกก ยิงกูทำไม!” เสียงร้องแบบคนที่โกรธและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน
ในเวลาดึกสงัด สักไม่กี่นาทีต้นไม้ที่แกนั่งอยู่มันโยกไหวอย่างแรงเหมือนมีคนมาเขย่าทั้งที่ไม่มีลมเลยสักนิดเดียว แกตกใจกลัว! คิดว่าโดนแล้ว แกรีบท่องมนต์คาถาอาคมที่นึกได้ทันที แต่ต้นไม้ที่แกนั่งอยู่กลับยิ่งโยกไหวแรงขึ้น ทั้งที่ต้นอื่นไม่ไหวติง พรานลุมแกจึงใช้วิธีสุดท้ายคือ ขอขมาต่อเจ้าป่าเจ้าเขา ณ ที่แห่งนั้น ต้นไม้ที่แกนั่งอยู่จึงหยุดไหว พรานลุมกลัวมาก แต่แกบอก
ถึงข้าจะกลัวขนาดไหน แต่ก็ไม่ขาดสติ ข้าไม่ยอมหนีลงจากต้นไม้เด็ดขาด
เหตุก็เพราะว่า ถ้าลงจากต้นไม้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอีกเบื้องล่าง ถ้าลงไปตายแน่ แกยอมทนนั่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นยันสว่าง แล้วรีบออกป่า มุ่งตรงกลับบ้านทันที
เมื่อกลับมาถึงบ้านแกจับไข้หัวโกร๋น ผมหลุดร่วงเกือบหมดหัว ไม่เข้าป่านอนซมอยู่กับบ้านถึง 2 อาทิตย์ และนับตั้งแต่วันนั้น พรานลุมก็ไม่กล้าเข้าป่าไปล่าสัตว์ที่โป่งผีดุนั่นอีกเลย

กดแชร์บทความ