เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่จังหวัดสงขลา เมื่อสิบปีที่ผ่านมา คุณคิงได้มีโอกาสไปขายน้ำยาในถังดับเพลิงแถวๆ สงขลา เพราะว่าพอจะมีเพื่อนอยู่แถวๆ นั้นบ้าง
แต่ตอนนั้นยายของเพื่อนเสียพอดี โดยปกติแล้วพิธีการจัดงานศพของทางภาคใต้ก็จะเหมือนกับทางภาคกลาง แต่เพื่อนของคุณคิงเป็นคนอีสาน เวลาจัดพิธีศพจะต้องตั้งศพไว้กลางบ้านตามประเพณี แล้วเพื่อนเกิดอยากดื่มเหล้า แต่ก็ไม่กล้าดื่มแบบโจ่งแจ้ง เพราะว่าเป็นงานศพของคุณยาย เดี๋ยวแขกที่มางานจะหาว่าไม่เคารพผู้ตาย
ลักษณะบ้านของเพื่อนจะเป็นบ้านไม้ ยกใต้ถุนสูง เพื่อนก็ให้คุณคิงไปนั่งดื่มที่ใต้ถุนบ้านตรงที่มืดๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวจะแวะมาดื่มเรื่อยๆ จนคุณคิงเริ่มเมา เพื่อนก็บอกคุณคิงว่า เดี๋ยวขึ้นไปนอนข้างบนบ้านเลยนะ คุณคิงถามเพื่อนกลับไปว่า ข้างบนมันมีที่นอนเหรอวะ เพื่อนตอบว่า มีๆ พอขึ้นไปถึงนะ เลี้ยวซ้ายห้องแรก เข้าไปนอนเลย ห้องนั้นว่าง คุณคิงก็เดินดุ่มๆ ขึ้นบ้านไป ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพราะอาการเมา
พอเลี้ยวซ้าย ก็เห็นว่าเพื่อนกางมุ้งไว้ให้พร้อมนอน คุณคิงมุดเข้าไปนอนทันที แต่ขาดันโผล่ออกไปนอกมุ้ง คิดในใจว่าทำไมคนที่นี่ตัวเล็กกันจัง’ จนเคลิ้มหลับ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเขี่ยๆ ที่ปลายเท้า
คุณคิงคิดว่าเป็นแมว พอโดนเขี่ยอีกสองทีสามที คุณคิงก็เริ่มยกเท้าขึ้นถีบไปข้างหลัง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าโดนอะไร สักพักก็ย้ายมาเขี่ยหัว แต่เขี่ยอยู่นอกมุ้ง เพราะคุณคิงนอนเอาศีรษะชนมุ้งพอดี ตอนนั้นก็คิดในใจว่าแมวตัวนี้มันชักจะขี้เล่นเกินไปละ ก็เลยเอามือคว้าขึ้นไปบนหัว แต่ก็จับโดนแค่อากาศ แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็กลับมาเขี่ยที่เท้าอีก จนคุณคิงเริ่มรำคาญ คิดในใจว่าขอลุกขึ้นดูมันสักหน่อย ทำไมมันดื้อจัง’
คุณคิงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมา กวาดสายตาออกไปรอบๆ ห้อง ปรากฏว่าเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ นั่งอยู่ตรงปลายเท้า คุณคิงพยายามสังเกตดีๆ ก็เห็นเป็นคุณยายแก่ๆ นั่งยองๆ แต่ยังเห็นไม่ชัดเจนนัก เพราะภายในห้องค่อนข้างมืด และคุณยายนั่งอยู่นอกมุ้งบวกกับอาการเมาของคุณคิง
คุณยายถามออกมาว่า นอนนี่เหรอลูก ถ้าจะนอนนี่ เดี๋ยวยายไปนอนตรงอื่น คุณคิงถามคุณยายว่า อ๋อ ที่นอนยายเหรอครับ คุณยายค่อยๆ เปิดมุ้งขึ้น แล้วเอาหน้ามุดเข้ามาในมุ้ง พร้อมกับตอบว่า ใช่
ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร คุณคิงถึงรู้สึกขนลุกตั้งไปทั้งตัว หรืออาจจะเป็นเพราะภาพที่เห็น แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่คุณยายแก่ๆ พยายามมุดเข้ามาในมุ้ง แต่บางจังหวะเห็นภาพเป็นเงาดําทะมึนเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
สักพักคุณคิงได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดมา คุณยายก็พูดว่า ยายไปละ ถ้าจะนอนก็นอนไป แล้วคุณยายก็ปิดมุ้งลง หันหลังแล้วเดินหายไปในความมืด พอดีกับที่เพื่อนเดินเข้ามาหาคุณคิง ตอนนั้นคุณคิงรู้สึกขนลุกและกลัวมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เพื่อนถามคุณคิงว่า เมื่อกี้มึงคุยกับใครวะ คุณคิงตอบว่า ยายไง เค้ามาหา แล้วทำไมมึงถึงบอกว่าให้มานอนนี่วะ แล้วยายเค้าจะนอนไหน หรือเค้าอยู่ในงานศพ
เพื่อนก็ทำหน้างงๆ แล้วถามว่า ยายไหนวะ คุณคิงบอกเพื่อนว่า ยายเมื่อกี้นี้ไง ที่ฟันข้างบนเค้าจะหลอๆ ข้างล่างจะมีฟันสองสามซี่อ่ะ เพื่อนได้ยินเช่นก็รีบดึงมือคุณคิงให้ลุกขึ้น แล้วพูดว่า ลุกขึ้นมาก่อน มึงได้ไหว้ศพยายหรือยัง?!
ตอนนั้นคุณคิงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นงานศพของใคร เพราะเพื่อนเรียกให้มาดื่มเหล้าก็ดื่มอย่างเดียว เพื่อนจึงพาคุณคิงไปจุดธูปไหว้ที่หน้าศพด้วยอาการเมาสะเงาะสะแงะ แล้วเพื่อนก็หันมาถามว่า คนนี้หรือเปล่า ที่ไปเรียกมึงเมื่อกี้
พอคุณคิงมองเห็นรูปที่ตั้งอยู่หน้าศพ อยู่ๆ ก็รู้สึกจุกที่หน้าอก เหมือนลมตีขึ้น เย็นวาบไปทั้งตัว รีบดีดตัวลุกขึ้นยืน อาการมึนเมาต่างๆ ก่อนหน้านี้หายไปจนหมด คุณคิงเดินลงไปนั่งที่ใต้ถุนบ้านทันที ยกเหล้าขึ้นดื่มแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพื่อนถามอะไร คุณคิงก็ไม่ยอมตอบ จนภรรยาของเพื่อนเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็เลยเล่าให้ฟัง ภรรยาของเพื่อนก็บอกว่างั้นให้ออกไปนอกงานก่อน นมลูกกำลังจะหมดพอดี ไปซื้อด้วยกันเลยก็แล้วกัน
คุณคิงก็คิดว่าดีหมือนกัน เพราะอยากออกไปจากที่นี่เต็มแก่ คุณคิงกับเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปข้างนอก จนไปถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง คุณคิงรีบสั่งเบียร์ออกมาเปิดดื่มแก้เครียดจนเริ่มตึงๆ เพื่อนก็คอยเร่งบอกว่าจะรีบเอานมกลับไปให้ลูก
นั่งอยู่สักพักก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนออกมา คุณคิงถือกระป๋องนมผงให้เพื่อน จนไปถึงทางโค้งแห่งหนึ่งที่มีศาลไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย เป็นจุดที่ค่อนข้างจะมืดมาก คุณคิงเห็นเหมือนผู้หญิงยืนอยู่ข้างๆ ศาลพระภูมิในความมืด ทำท่าโบกมือเรียกแบบร้อนรน เหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ คุณคิงก็ถามเพื่อนว่า ใครวะ เพื่อนก็บอกว่า มึงไม่ต้องสนใจ! แล้วเพื่อนก็ขี่รถฉีกออกไปทาเลนขวาทันที
คุณคิงก็บอกเพื่อนว่า เฮ้ย! นั่นผู้หญิงเค้าต้องการความช่วยเหลือนะ เพื่อนพูดสวนกลับมาทันทีว่า เชื่อกูเถอะ ที่นี่ไม่มีใครมายืนตอนกลางคืนหรอก ด้วยความเมา คุณคิงก็เลยรั้นเพื่อน เฮ้ย! มึงไม่เห็นคนเหรอ ทำไมไม่ช่วยเค้าล่ะ
เพื่อนหันมาพูดเสียงนิ่งๆ ว่า นี่มันภาคใต้นะเว้ย! ต้องเข้าใจ บางทีกลางคืนเจออะไรก็ต้องระวังไว้หน่อย แล้วเพื่อนก็ขี่มอเตอร์ไซค์เลยผู้หญิงคนนั้นไป จังหวะที่ขี่เลย คุณคิงเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มองตามรถที่ขี่เลยมาแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นยังคงทำท่าโบกมืออย่างลนลาน ไปทางด้านหลังของคุณคิงที่มีแต่ความมืด
ด้วยความงง คุณคิงจึงหันกลับมาถามเพื่อนว่า เอ้า เค้าโบกใครวะ เพื่อนตอบเสียงแข็งว่า กูบอกแล้วไง! แต่เพราะความซวย ถุงที่ใส่กระป๋องนมมันดันขาด จนกระป๋องนมตกกระแทกพื้นดัง ก๊องๆๆๆๆๆ แล้วไถไปกับถนน คุณคิงบอกเพื่อนทันทีว่า หยุดก่อนๆ เพื่อนหันกลับมาถามอย่างรําคาญว่า อะไรอีก
คุณคิงบอกเพื่อนว่า ป๋องนมลูกมึงหล่น เพื่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า อ้าวแล้วมึงถือยังไงเนี่ย คุณคิงตอบว่า กูไม่ได้ถือยังไง แต่ถุงมันขาดดด! เพื่อนเบรครถทันที แล้วหันมาบอกว่า มึงลงไปเอาเลย กูต้องกำเบรครถไว้ ถนนมันเป็นทางลาด
คุณคิงหันกลับไปมองข้างหลัง ก็ยังเห็นผู้หญิงคนนั้นทำท่าโบกมือไปทางด้านหลังอยู่เหมือนเดิม ดูแล้วรู้สึกขนลุกชอบกล แล้วคุณคิงก็พูดว่า ตกลงเป็นกูใช่มั้ย?! ด้วยความโมโหปนสงสัย คุณคิงจึงลงจากรถแล้วเดินกลับไปหยิบกระป๋องนม
ตามัวแต่จ้องผู้หญิงแปลกคนนั้น ไม่ได้มองที่กระป๋องนม คิดในใจว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ แล้วเธอกำลังโบกเรียกใครอยู่ ด้านหน้าที่เธอกำลังโบกอยู่ก็มีแต่ความมืด หรือว่ามันมีอะไรสักอย่างอยู่ในความมืดนั้นกันแน่
แต่ซวยซ้ำกรรมซัด เท้าไปเตะโดนกระป๋องจนมันกลิ้งไปติดเท้าของผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงไม่สนใจ เอาแต่โบกไม้โบกมืออยู่กับที่ คุณคิงคิดว่าแบบนี้มันไม่ปกติแล้ว ถ้าเป็นคนก็ควรจะหันกลับมามองบ้าง ความรู้สึกบางอย่างเริ่มเตือนให้คุณคิงระวังตัว ขามันเหมือนจะรับรู้ถึงความคิดในหัว จนเริ่มก้าวถอยออกมา
คุณคิงเลือกที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง รีบวิ่งกลับไปหาเพื่อนแล้วกระโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ทันที แล้วพูดว่า ไปเหอะ มันไม่ใช่คนแล้ว เพื่อนมองที่กระจกหลังสักครู่แล้วพูดว่า กูก็ว่างั้น แล้วรีบบิดมอเตอร์ไซค์จนสุดคันเร่ง
ด้วยความสงสัย คุณคิงก็ถามเพื่อนว่า ทำไมมึงเห็นพ้องกับกูง่ายจังวะ เพื่อนหันกลับมาบอกว่า เมื่อกี้กูมองในกระจก ไม่เห็นมีใครยืนอยู่ตรงนั้นเลยสักคน!
จังหวะที่กำลังขี่รถไปตามทาง คุณคิงเหมือนได้ยินเสียงรองเท้าแตะ วิ่งตามหลังมา แปะๆๆๆๆ คุณคิงหันกลับไปมองทันที แต่ก็เจอแค่ความมืด พยายามเพ่งมองเข้าไปในความมืด แต่ก็ไม่พบอะไร คุณคิงรู้สึกเย็นวูบวาบที่แผ่นหลัง ในหัวตีกันจนมั่วซั่ว คิดไม่ตกว่ามันคืออะไรกันแน่
คุณคิงสังเกตได้ว่า ความกลัวและความวิตกเริ่มแสดงขึ้นทางสีหน้าของเพื่อน แต่น่าแปลกที่คุณคิงสามารถสะกดความกลัวเอาไว้ได้ ไม่ให้มันพรั่งพรูออกมา หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่อยู่ในตัว เสียงปริศนานี้ไล่หลังมาจนถึงบ้านของเพื่อน คุณคิงกลับมานั่งดื่มเหล้าต่อ และคิดว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
จนรุ่งเช้า คุณคิงก็ขึ้นไปไหว้ขอขมาคุณยาย แล้วถามกับชาวบ้านแถวนั้นว่ามีผู้หญิงหรือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมั้ย ชาวบ้านบอกว่า เมื่อไม่นานมานี้ เกือบๆ สองอาทิตย์ มีผู้หญิงคนนึงโดนรถชนอยู่แถวนั้น ผู้หญิงคนนี้พยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ แต่มันเป็นเวลาดึก คนที่พบเห็นก็ไม่เชื่อว่าเป็นคน จึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนผู้หญิงคนนี้ตายคาที่ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
ขอขอบคุณที่มา: พันทิปดอทคอม
ติดตามอ่านเรื่องสยองขวัญต่อได้ที่
คลังสยอง

กดแชร์บทความ