วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริง วันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ
แสงจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมากระทบกับผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับน่าหลงใหล กระทงหลายใบหลากสีสันไหลไปตามสายธาร เทียมที่ปักอยู่ส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วทั้งบริเวณ ดูแล้วช่างตระการตาเสียจริง
เพลงลอยกระทงถูกเปิดคลอในงานเทศกาลเบาๆ ลักษณะงานคล้ายคลึงกับงานวัด มีชิงช้าสวรรค์ที่ตกแต่งด้วยหลอดไฟฟลูออกเรสเซนต์หลากสีสัน รอบๆ งานมีร้านขายขนมโบราณนานาชนิดอยู่ทั่วบริเวณ ผู้คนอัดแน่นกันเต็มถนน และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานเทศกาลแบบนี้คือ ร้านขายกระทง
‘แวว’ หญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินเบียดเสียดผู้คนไปตามท้องถนนเพื่อไปหาซื้อกระทงที่จะนำไปลอย ผิวที่ซีดจัดราวกับหิมะของเธอนั้นทำให้หญิงสาวดูโดดเด่นขึ้นมายามที่แสงไฟสีต่างๆ จากหลอดฟลูออเรสเซนต์มากระทบ
“กระทงใบละยี่สิบจ้ะ ยายทำเองเลยนะ” แววหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงของหญิงชราคนหนึ่งใบละยี่สิบบาทไม่ใช่จะหากันง่ายๆ สมัยนี้! โชคดีจริงๆ
เป็นเรื่องปกติของสาวๆ ที่เมื่อเวลาเห็นของถูกหูตาก็จะแวววาวเป็นพิเศษ หญิงสาวรีบเดินแหวกผู้คนเข้าไปข้างทางทันที โต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ แบบพับเก็บได้ตั้งตระหง่าอยู่ระหว่างร้านขายขนมทั้งสองข้าง หญิงชราสวมเสื้อลายกล้วยไม้สีม่วงกับโจงกระเบนสีฟ้าที่กำลังนั่งพัดตนเองด้วยพัดสานอยู่บนเก้าอี้พลาสติกรีบเอ่ยทักหญิงสาวทันทีที่เห็นเธอเดินใกล้เข้ามา “แม่หนูสนใจกระทงยายมั้ย ยี่สิบบาทเอง”
ทำไมจะไม่สน เป็นใครใครก็สน!
กระทงใบตองสิบกว่าใบเรียงรายกันอยู่บมโต๊ะอลูมิเนียมเล็กๆ ทั้งหมดมีลักษณะเหมือนกัน รอบตัวกระทงพับใบตองเป็นแบบกลีบผกา ภายในตกแต่งด้วยดอกบานไม่รู้โรยและดอกดาวเรือง มีธูปปักอยู่สามดอกและเทียนอีกหนึ่งเล่ม
“เอาใบนึงค่ะยาย” หญิงสาวเอ่ยพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากเป้สะพายหลัง แล้วควักแบงค์ยี่สิบออกมาส่งให้หญิงชรา ไม่รู้แววรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เหมือนว่ากระทงเหล่านั้นกำลังเรียกเธออยู่ เลือกฉันสิเลือกฉัน
หญิงชราจ้องหน้าแววด้วยสายตาแปลกๆ จนหญิงสาวทำตัวไม่ถูก เธอจึงรีบเลือกกระทงที่ดูเรียบร้อยที่สุดแล้วกำลังจะเดินจากไป แต่แล้วเธอก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงชรา
“นี่หนู ระวังตัวด้วยนะ” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้ พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แต่พอหันกลับมาเธอก็ชักสีหน้าไม่พอใจ อีแก่นี่ท่าจะเพี้ยน อยู่ดีๆ มาบอกให้ระวังตัว
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินลับสายตาไปแล้ว หญิงชราก็ขยับพัดสานที่อยู่ในมือไปมาเพื่อระบายความร้อน เธอแอบแสยะยิ้มเล็กๆ ขอให้โชคดีนะสาวน้อย
แววเดินถือกระทงมาถึงริมแม่น้ำในที่สุด ระหว่างที่เธอเดินถือกระทงมานั้น เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ผิดปกติของอากาศรอบตัว แถมยังรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังมาอีก แต่หญิงสาวก็พยายามสลัดความคิดพวกนั้นออกไป สวยก็ไม่สวย ของมีค่าก็ไม่มี จะมาปล้นก็ไม่ได้อะไรกลับไปหรอกย่ะ!
แววจัดการจุดธูปเทียนด้วยไฟแช็กที่พกมา แล้วค่อยๆ หย่อนกระทงใบเล็กลงไปในแม่น้ำใหญ่ใจกลางเมืองกรุง เธอระวังตัวเป็นพิเศษตอนหย่อนกระทงลงแม่น้ำ เพราะงานลอยกระทงปีที่แล้วมีข่าวหญิงสาวคนหนึ่งตกน้ำตอนที่กำลังหย่อนกระทง เมื่อผู้คนเห็นดังนั้นก็รีบถอยห่าง ไม่มีใครลงไปช่วยหญิงสาวคนสักคนเห็นแก่ตัว!
แววเห็นข่าวแล้วก็อดสงสารหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ ไม่มีใครหาศพของเธอเจอ เธอคงจะตายตาไม่หลับและคงไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะยังไม่ถึงฆาต ไม่เข้าใจว่าทำไมคนสมัยนี้เห็นแก่ตัวกันจัง ถ้าเป็นเธอ เธอจะรีบลงไปช่วยเลย
แววเฝ้าดูกระทงของตัวเองพร้อมตั้งจิตอธิษฐานให้ตัวเอง ขอให้ข้าพเจ้ามีแต่ความสุขตลอดปี การเรียนดี เจอเนื้อคู่ในเร็ววัน และขอให้ดวงวิญญาณทุกตนที่สิงสถิตที่นี่ได้ไปผุดไปเกิดในเร็ววันด้วยเถิดสาธุ!
การที่เราให้ชีวิตใหม่นั้น ถือว่าเป็นอันสูงส่ง หวังว่าดวงวิญญาณที่ยังไม่ถึงฆาตเหล่านั้นได้ไปผุดไปเกิดตามคำอธิษฐานของเธอ
แววเฝ้าดูกระทงของเธอแหวกว่ายไปตามสายธาร รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เลย แต่แล้วสิ่งที่แววเห็นตรงหน้าทำให้เธอถึงกับหน้าถอดสี เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายที่ลดลงเหมือนว่าพระเจ้าจะไม่รับฟังคำอธิษฐานของแววกระทงเธอคว่ำ!
หญิงสาวใจหายวาบ โบราณกล่าวว่ามันเป็นลางไม่ดีถ้ากระทงคว่ำ แต่แววก็พยายามไม่คิดอะไร เธอถอนหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วคิดว่ามันไม่มีอะไรเดี๋ยวนี้ไม่มีใครเชื่อเรื่องโบราณกันแล้ว
ในขณะที่เธอกำลังจะกลับนั้น ไม่รู้มีอะไรดลบันดาลให้สายตาของแววไปสะดุดกับหญิงสาวใส่ชุดไทยศิวาลัยคนหนึ่งที่นั่งยองๆ อยู่ที่ริมขอบแม่น้ำ เธอนั่งกอดเข้าโยกเยกไปมาราวกับคนบ้า เธอเดินเข้าไปทักหญิงสาวคนนั้นด้วยความเป็นห่วง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเข้าไปทักคนบ้าทำไม รู้สึกเหมือนมีอะไรดึงดูดให้เธอเดินเข้าหาโดยปริยาย “นี่คุณ มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก”
ด้วยน้ำเสียงเอ่ยทักของแวว ทำเอาหญิงสาวหลุดจากภวังค์ทันที เธอค่อยๆ หันมาสบตาแวว แล้วตอบ
“เป็นห่วงฉันด้วยเหรอ”
“ก็ต้องเป็นห่วงสิคะ ไปนั่งที่อื่นเถอะค่ะ อย่ามานั่งแถวนี้เลย”
อีกฝ่ายจ้องหน้าเขม็ง ใบหน้านิ่งเฉยราวกับว่าไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรด้วย แววก็ค่อยๆ ละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้า กระชับกระเป๋าสะพายหลังให้แน่นก่อนที่เดินออกไป แต่เธอก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แม่น้ำสวยดีนะ หญิงสาวในชุดไทยศิวาลัยเอ่ย พลางทอดสายตามองไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า ที่บัดนี้ส่องสว่างไปด้วยแสงเทียนจากกระทงนับพันและสวยขึ้นไปอีกเมื่อกระทบกับแสงจันทร์เต็มดวง
“อะอ่อค่ะ สวยดี แววมองตามออกไปเช่นกัน
“อยากไปอยู่มั้ย” หญิงสาวในชุดไทยศิวาลัยเอ่ยขึ้นลอยๆ ในขณะที่สายตายังจับจ้องไปบนผืนน้ำ
“ไม่หรอกค่ะ อยู่แบบนี้แหละดีแล้ว” แววหัวเราะแห้งๆ ถามแปลกจริง ให้ไปอยู่ในน้ำเนี่ยนะ ยัยนี่ท่าจะบ้าจริงๆ ไม่น่าเสียเวลามาคุยด้วยตั้งแต่แรก
“งั้นเหรอ”
ตุ้ม!
ทันทีที่สิ้นสุดเสียงของหญิงสาวในชุดไทย ร่างของเธอก็เอนตกลงแม่น้ำไป ส่งผลให้น้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ แววตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ แล้วรีบร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที มีคนตกน้ำค่ะ!” แววตะโกนสุดเสียงแต่ทว่าคนแถวนั้นกลับถอยห่าง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอเลยแม้แต่คนเดียวเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น!
แววไม่มีทางเลือก เธอถอดกระเป๋าสะพายหลังออกแล้วรีบกระโดดน้ำตามลงไป ใต้ผืนน้ำต่างจากพื้นผิวลี้ลับ ทั้งหนาว ทั้งมืด ไม่มีแสงไฟส่องทะลุเข้ามา แววพยายามลืมตาในน้ำแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆไม่มี! ไม่มีร่างของหญิงสาวคนนั้นเลย
แต่แล้วจู่ๆ ก็มีบางอย่างมาสัมผัสข้อเท้าของเธอ มันเย็นเฉียบ! แววรีบก้มลงไปดูก็พบกับหญิงสาวในชุดไทยศิวาลัยในสภาพที่บวมอืด ชุดไทยที่สวมใส่อยู่แทบจะปริขาด พร้อมกับรอยยิ้มที่แสยะให้อย่างน่ารังเกียจ
แววตะเกียกตะกาย อากาศที่เหลืออยู่ในร่างกายน้อยเต็มที พยายามจะสลัดขาให้หลุดจากพันธนาการ แต่มันก็ไม่เป็นผล มิหนำซ้ำมืออันเน่าเปื่อยของผีสาวยังรัดแน่นขึ้นด้วย!
ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!
“กูรอเวลานี้มานานแล้ว มาเป็นตัวตายตัวแทนกูเถอะ! สิ้นสุดเสียง ผีสาวก็ลากร่างของแววลงไปสู่เบื้องล่าง ดวงตาของแววเบิกโพลงขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอันขาวซีดของเธอ
ไม่นะ ยังไม่อยากตายเลย
. . .
“นี่ๆ เธอ มีข่าวคนตกน้ำในวันลอยกระทงอีกแล้วอะแก ไม่มีการรักษาความปลอดภัย เห็นอย่างงี้ไม่อยากไปลอยกระทงเลย” หญิงสาวร่างเล็กเอ่ยก่อนที่ตักข้าวผัดกะเพราข้าวปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
“เห็นว่ากันว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก” เพื่อนสาวตอบก่อนจะรวบช้อนส้อมในจานตรงหน้า “เอ๋ งั้นมันเป็นฆาตกรรมเหรอ หญิงสาวร่างเล็กเลิกคิ้วสูง
“ไม่ใช่ๆ เห็นเขาบอกกันมานะ ว่างานวันลอยกระทงของทุกๆ ปีน่ะ จะมีหญิงชราคนนึงมาขายกระทง ซึ่งในกระทงเหล่านั้นจะมีพวกวิญญาณเร่ร่อนที่ยังไม่ถึงฆาตสิงสถิตอยู่ ถ้าใครซื้อไปก็ต้องไปเป็นตัวตายแทนของพวกมัน” เพื่อนสาวเล่าอย่างออกรสออกชาติ ทำเอาคนฟังถึงกับหวาดผวา
“พูดอะไรบ้าๆ น่ะ
“ไม่ได้บ้า หญิงชราคนนั้นน่ะเห็นว่าเป็นหมอผีเก่าย่านๆ นั้นแหละ นางจะช่วยเหลือพวกวิญญาณเร่ร่อนให้ได้ไปผุดไปเกิด โดยการหาตัวตายตัวแทนให้ พวกคนแถวนั้นเลยบอกต่อๆ กันว่า ถ้ามีคนตกน้ำอย่าลงไปช่วย เพราะไม่งั้นอาจจะได้กลายไปเป็นตัวตายตัวแทน แทนผู้ถือกระทง”
“แล้วทำไมไม่ไปหาตัวตายตัวแทนเองล่ะ ทำไมต้องมาสิงอยู่ในกระทงเหล่านั้น”
“ก็คนปกติจจะไม่สามารถสื่อสารกับพวกวิญญาณ นอกจากพวกที่สามารถรับรู้คลื่นความถี่ได้มากกว่าคนปกติทั่วไป ก็เลยจำเป็นต้องมีสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารกันน่ะสิ มันจะได้ง่ายขึ้น”
“โหย ขนลุกอะ แล้วอย่างงี้หญิงแก่คนนั้นจะได้บุญหรือบาปล่ะ เพื่อสาวยกขวดน้ำขึ้นมากระดก ก่อนจะพูดต่อ
“ไม่รู้สิ ช่วยเหลือคนให้ได้ไปผุดไปเกิดก็ดีเหมือนกันนะ แต่ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตคนอื่นฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก”
“งั้นเหรอ หญิงสาวร่างเล็กตักข้าวอีกคำเข้าปาก ก่อนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“จะว่าไป เมื่อวานฉันก็ไปซื้อกระทงจากหญิงชรามาเหมือนกันนะ ไม่รู้จะใช่คนเดียวกันกับที่เธอเล่ารึเปล่า แล้วจู่ๆ ดวงตาของเพื่อนสาวก็เบิกโพลงขึ้นราวกับตกใจกับสิ่งตรงหน้า หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างเล็กของหญิงสาวตรงหน้าบวมอึดจนชุดนักศึกษาแทบจะปริขาดออกจากกัน ริมฝีปากบวมเขียว และภายในลูกตาก็มีหนอนสีขาวตัวอ้วนๆ ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เธอตายแล้ว!
“เป็นอะไรไป ทำหน้าอย่างกับเห็นผีอย่างงั้นแหละ” หญิงสาวร่างเล็กเอียงคอบวมๆ ของเธอถาม เพื่อนสาวไม่ตอบอะไร ตัวเธอสั่นระริกไม่หยุด เพื่อนสาวสติแตกไปแล้ว!
“อิ่มละ ไปเก็บจานดีกว่า” หญิงสาวร่างเล็กหยิบจานลุกออกจากโต๊ะไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ที่สำคัญเธอยังไม่รู้ตัวว่าเธอตาย!
เพื่อนสาวปากสั่นราวกับคนจับไข้ ดวงตากลอกกลิ้งไปมาราวกับคนเสียสติ ไม่แน่ เธออาจจะกลายเป็นตัวตายตัวแทนของของใครบางคนในอนาคต
“ผะ ผี! กรี้ดดดดด!!”
วัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดไม่จบสิ้น!
ขอขอบคุณที่มา: เด็กดีดอทคอม
ติดตามอ่านเรื่องสยองขวัญต่อได้ที่ คลังสยอง

กดแชร์บทความ