เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของคุณเคน เกิดขึ้นที่บ้านในจังหวัดนนทบุรี เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา บ้านคุณเคนเป็นบ้านโขนละครมาตั้งแต่สมัยคุณทวดแล้ว ลักษณะบ้านเป็นบ้าน 2 ชั้นใต้ถุนสูง และมีการสอนดนตรีนาฏศิลป์ควบคู่กันไปด้วย แต่ที่บ้านจะมีกฎเหล็กอยู่เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของชฎาที่มียอด โดยชฎายอดนี้ห้ามไม่ให้ใครจับต้องเป็นอันขาด
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนคุณเคนอยู่ช่วงชั้น ม.1 โดยเขามีเพื่อนสนิทที่ชอบการรำอยู่คนหนึ่ง เพื่อนคนนี้ชื่อ พัด คุณเคนเลยชวนพัดไปเรียนที่บ้านเพราะว่าสอนฟรี พัดเลยตอบตกลง
ช่วงบ่ายแก่ ๆ เวลาประมาณบ่ายสาม คุณเคนให้พัดไปรอบนบ้าน เพราะว่าจะไปช่วยแม่ทำกับข้าว สักพักก็ได้ยินเสียง ตึง ตึง ตึง อยู่บนบ้าน คุณเคนเลยรีบวิ่งไปดูก็เห็นพัดหยิบชฎายอดนั้นมาใส่แล้วร่ายรำ คุณเคนก็ตกใจเพราะลืมบอกพัดว่าห้ามจับ คุณเคนเลยบอกว่า หยิบมาเล่นได้ไง วางเลยนะ! พัดเลยรีบถอดชฎาออก แต่ด้วยความตกใจชฎาเลยตกลงพื้นจนส่วนยอดแตกออกจากหัวชฎา แต่ว่าแตกออกในลักษณะที่พอจะประกอบกลับคืนได้
คุณเคนเลยบอกพัดให้กลับบ้านไปก่อน วันหลังค่อยมาใหม่ เดี๋ยวใครมารู้เข้าต้องโดนดุแน่ ๆ เลย พัดก็ตกใจแล้วบอกว่า เราไม่รู้ เห็นสวยดีเลยลองเอามาใส่ดู คุณเคนเลยบอกให้เพื่อนกลับบ้านไป แล้วกำชับว่าเรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนเท่านั้นนะ
คืนนั้นเป็นคืนวันพระ จึงต้องมีการถวายเครื่องเซ่นที่โต๊ะหมู่บูชานี้อยู่แล้ว ซึ่งบนโต๊ะหมู่ก็จะมีชฎายอดนั้นตั้งอยู่
คืนนั้นตกดึกเวลาสักประมาณ 5 ทุ่ม คนในบ้านหลับหมดแล้ว พลันก็มีเสียงดังตึงตัง มันเป็นเสียงของหน้าต่างที่กระทบบานไม้คล้ายโดนลมแรงพัด อีกทั้งเสียงคนวิ่งไปมาบนบ้าน ทุกคนในบ้านเลยตื่นขึ้น พอเปิดไฟดูก็เห็นเครื่องเซ่นร่วงกระจัดกระจายไปหมด แล้วที่สำคัญคือมีรอยเท้าจากโต๊ะหมู่บูชาเดินตรงไปบริเวณหน้าบ้าน ทุกคนก็คิดว่าอาจจะเป็นโจรหรือเปล่า
ขณะที่คุย ๆ กันอยู่ หลังโต๊ะหมู่นี้ก็จะเป็นรูปคนตาย คุณเคนมองไปที่รูปคุณทวดโดยมองผ่าน ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นเหมือนคนในรูปหายไป แต่พอขยี้ตาอีกทีรูปก็กลับมาปกติ
เช้ามาคุณเคนก็ไปโรงเรียนตามปกติแต่วันนั้นพัดไม่มา คุณเคนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และเช้าวันต่อมาพัดก็มาโรงเรียนโดยมีคุณแม่พามาส่ง พัดบอกว่าตัวเขาไม่ค่อยสบายเพราะตากฝน แต่ลักษณะพัดดูแปลก ๆ ขอบตาดำคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอน คุณเคนก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง พัดก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอก แค่มีไข้อ่อน ๆ เท่านั้นเอง
เวลาผ่านไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง พัดก็เริ่มมีอาการแย่ลง พัดมักจะมีอาการเหม่อลอย เวลาครูสั่งอะไรก็จะไม่ค่อยทำ เพื่อน ๆ ก็แปลกใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่สงสัย
อีกอาทิตย์ถัดมา วันนั้นพัดมาโรงเรียนด้วยอาการนิ้วชี้ กลาง นาง ก้อย หักหมดเลย แม่พัดก็บอกว่าเขาลื่นล้ม คุณเคนก็ถามพัดว่ายังอยากไปเรียนรำที่บ้านอยู่ไหม พัดก็บอกว่า ไม่ ไม่อยากไปแล้ว เพราะมีคนสอนแล้ว หลัง ๆ มาพัดเก็บตัวเงียบ ใครชวนไปไหนก็ไม่ไป แต่จะถามกลับมาว่า
มีแกงกะทิไหม มีขนมใส่ไส้ไหม
พัดเริ่มมีอาการแปลก ๆ หลังจากที่นิ้วหัก เวลาที่พัดเหม่อลอย หากเงี่ยหูฟังดี ๆ พัดจะฮัมเป็นทำนอง โจ๊ะ ทิง ทิง โจ๊ะ ทิง ทิง อยู่แบบนั้น คุณเคนก็คิดว่าพัดเรียนรำแล้วคงขยันล่ะมั้ง เลยฮัมเป็นทำนองแบบนี้อยู่ตลอด
หนึ่งเดือนผ่านไปพอนิ้วพัดเริ่มหายดี แต่คราวนี้เป็นแขนพัดที่หักแทน หักตั้งแต่ข้อศอกลงไปเลย แขนก็ถูกเข้าเฝือกไว้ ทุกคนต่างก็งง พัดก็บอกแค่ว่าลื่นล้ม แต่ก็ถามกลับมาว่า วันนี้มีแกงกะทิไหม แล้วจังหวะเวลาฮัมทำนอง โจ๊ะ โท่ง จ๊ะ ทิง โจ้ง จังหวะเริ่มยาวบวกกับอาการเหม่อลอยที่เป็นมากขึ้น แล้วพัดจะกลัวความมืดมาก เวลาห้องเรียนไม่เปิดไฟจะไม่เข้าไปเลย เพื่อนเลยถามว่าทำไมถึงกลัว พัดก็บอกว่า
กลัวสิ มืด ๆ เดี๋ยวมียายมาหา เพื่อน ๆ ก็งงว่ายายไหน ไม่มีหรอก ครูก็บอกว่าไม่มียายที่ไหนนะ พัดก็เถียงว่า มียาย มียาย จริง ๆ นะ
เวลาผ่านไปอีกเดือน แขนพัดก็เริ่มหาย แต่คราวนี้พัดขาหักอีก ทุกคนก็งงว่าพัดไปโดนอะไร ทำไมถึงได้ซวยอะไรขนาดนี้
วันนึงเป็นวันพระใหญ่ บ้านคุณเคนก็เอาเครื่องเซ่นไปวางที่โต๊ะหมู่ที่บ้านตามปกติ แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบเดิม คือมีเสียง ตึง ตึง ตึง แล้วก็มีรอยเท้าเหมือนเดิมอีก ทุกคนตื่นมาดู พวกผู้ใหญ่ก็บอกว่า ทวดคงออกไปเที่ยวล่ะมั้ง
ช่วงหลัง ๆ มาพัดเริ่มมีอาการหนักขึ้น เวลาเรียกต้องตะโกนถึงจะได้ยิน บางทีก็นั่งน้ำลายยืด วันนั้นมีคาบเรียนรำนาฏศิลป์ที่โรงเรียน พัดก็นั่งเหม่อลอย ครูก็ถามว่าทำไมนั่งเหม่อแบบนั้น เพื่อนเค้าเรียนกันทำไมไม่เรียน พัดก็สวนกลับมาว่า เรียนไปทำไมล่ะ ก็รำได้หมดแล้ว! ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดปกติอย่างมาก ปกติพัดไม่เคยเถียงครูเลยด้วยซ้ำ ครูเลยบอกว่า ฉันสอนยังไม่ถึงไหนเลย เธอจะมารำได้ยังไงหึ!  พัดก็บอกว่า หรือจะให้รำให้ดู แต่ถ้ารำให้ดูแล้วก็เอาแกงกะทิมาให้ด้วยแล้วกัน ครูก็บอกว่า งั้นมารำ จะเอาแกงกี่หม้อฉันก็จะซื้อให้!
พัดก็ลุกขึ้น ทันใดนั้นไฟในห้องก็ดับพรึ่บ แล้วก็มีเสียงพัดร้อง จ๊ะ โท่ง จ๊ะ ทิง โจ่ง แล้วก็ร่ายรำอย่างถูกต้องทุกท่วงท่า ครูก็ถามพัดว่าไปหัดรำที่ไหนมา รำสวยมาก ขนาดว่าขาหัก พัดก็บอกว่า มีคุณยายมาสอนรำ มาสอนทุกคืน เดี๋ยวคืนนี้ก็มาอีก คุณเคนก็คิดในใจว่าหรือจะเป็นทวดที่บ้านเราวะ’
เช้าวันรุ่งขึ้น ครูก็เอาแกงกะทิมาให้พัดตามสัญญา พัดก็พูดในลักษณะคล้ายผู้หญิงว่า เอาขนมใส่ไส้ด้วยนะ ครูก็บอกว่า จะไปหาที่ไหนล่ะ เธอเป็นนักเรียนนะ พัดก็บอกว่า ไม่กินก็ไม่กิน!
เช้ารุ่งขึ้นของอีกวัน พัดคอหัก โดยใส่เฝือกคอมาด้วย โดยที่แม่มาส่งที่โรงเรียน โดยก่อนจะเข้าห้องเรียน แม่ของพัดก็ตรงเข้ามาหาคุณเคนแล้วบอกว่า หนู.. แม่ถามหน่อย ตอนพัดไปเรียนรำกับหนู พัดได้ไปทำอะไรไว้หรือเปล่า เลิกเรียนเดี๋ยวแม่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม เดี๋ยวขอไปลาครูให้พัดก่อน สันกระดูกคอพัดมันร้าว
หลังเลิกเรียนคุณเคนก็ได้คุยกับแม่ของพัด แม่ของพัดก็เล่าให้ฟังว่า พอกลับมาจากบ้านคุณเคน พัดก็มีอาการแปลก ๆ คืนนั้นช่วง 5 ทุ่ม แม่พัดเห็นยายแก่ ๆ มายืนหน้าบ้าน พอเปิดไฟแม่ก็ตกใจ เห็นพัดนั่งหักนิ้วตัวเองอยู่ พัดบอกว่ายายมาบอกให้หักนิ้ว ถ้านิ้วไม่งอจะรำไม่สวย แม่พัดตกใจมากเลยรีบพาพัดไปหาหมอ
ทุก ๆ คืนพัดจะตื่นมารำอยู่คนเดียว แม่ก็คิดว่าพัดคงจะตั้งใจเลยไม่ได้ว่าอะไร แต่หลัง ๆ ตกดึกพัดก็จะตื่นมารำทุกคืน แล้วพัดก็จะบอกว่ามีแกงกะทิไหม จะเอาไปให้ยายกิน แม่ถามว่ายายไหน พัดก็บอกว่ายายที่มาสอนรำไง ส่วนเรื่องแขนที่หัก พัดก็งอแขนตัวเองเพื่อให้ตั้งวงได้สวย ๆ พัดบอกว่า ยายมาบอกว่าถ้าแขนงอไม่เป็นวงก็จะรำไม่สวย พัดทำไม่ได้ยายเลยจับพัดหักแขนเข้ามา
แล้วในการรำมีจังหวะช้ากับเร็ว พอถึงจังหวะเร็วต้องยกขาวาง ตอนที่พัดขาหัก พัดบอกแม่ว่าคุณยายบอกว่าถ้ากระทืบเท้าไม่แรงจะรำไม่สวย พัดเลยกระทืบเท้าจนกระดูกหัวเข่าหลุด แม่พัดก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยจับพัดมัดไว้กับเตียง พอตกดึกพัดก็แก้มัดได้หมดแล้วมายืนรำ พอแม่เปิดประตูเข้าไปดู ก็เห็นเงายายแก่จับคอพัดหัก ลักษณะเหมือนตอนรำแล้วเอียงคอ จนทำให้กระดูกคอพัดร้าว
คุณเคนเลยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องที่พัดทำยอดชฎาหัก เรื่องเลยแดงไปถึงทางบ้านของคุณเคน ที่บ้านคุณเคนเลยบอกว่าพรุ่งนี้ที่บ้านจะจัดงานไหว้ครู ให้พาพัดมาขอขมาที่บ้านด้วย
พอถึงวันพฤหัสบดีก็มีการจัดงานใหญ่ มีบทสรรเสริญครูบาอาจารย์ที่ตายไปแล้ว คนนำกล่าวลักษณะคล้ายร่างทรงพอพูดไปได้สักพัก อยู่ ๆ ก็ล้มลงไปนอนกับพื้น พอลุกขึ้นมาก็พูดแบบคนแก่ กระทืบเท้าแล้วชี้มาทางคุณเคน แล้วพูดว่า
เพื่อนมึงทำของกูหัก กูจะหักเพื่อนมึงให้เหมือนกับของ ๆ กู ถ้าไม่ตายดีอย่ามาเรียกกูยายโส!
แล้วคนนั้นก็ล้มพับลง พอป้าของคุณเคนไปตรวจดูที่ชฎาทุกคนต่างตกใจ เพราะจุดที่ชฎาหักกับสิ่งที่พัดเป็นนั้นแทบจะตรงกันทุกจุด ส่วนขาชฎาหัก ส่วนปีกของชฎาที่เป็นเหมือนส่วนแขนหัก ส่วนยอดดิ่งของชฎาก็หัก
ทางบ้านของคุณเคนเลยโทรไปหาแม่พัด บอกให้รีบพาพัดมาขอขมาโดยด่วน แม่พัดก็บอกว่าวนหาทางไปบ้านงานมาเป็นสิบ ๆ รอบแล้ว ทุกครั้งจะเจอแต่ยายแก่ ๆ โบกให้ไปทางอื่น หาทางไปไม่เจอทั้ง ๆ ที่บ้านของคุณเคนอยู่ติดถนนใหญ่เลยด้วยซ้ำ ทางบ้านคุณเคนเลยบอกให้จอดรถเดี๋ยวจะออกไปรับ จึงสามารถพาพัดมาถึงบ้านงานได้
พอแบกพัดขึ้นบนบ้านก็ให้แม่พัดจุดธูปขอขมา อยู่ดี ๆ พัดก็ลุกขึ้นมาชี้ไปที่รูปทวด แล้วบอกว่ายายคนนี้แหละที่มาสอนพัดรำทุกคืน ที่มาสอนให้หักนิ้ว แล้วอยู่ ๆ รูปที่แขวนอยู่ก็ร่วงโครมครามลงมา จนทุกคนตกใจพากันวิ่งลงจากบ้าน คล้ายว่ายายทวดไม่ยอมรับการขอขมานี้
แม่คุณเคนก็เล่าว่า ชฎายอดนี้ยายทวดรักมาก เหมือนเป็นยอดคู่ชีวิตของท่าน แกถึงกับสาปแช่งไว้ว่าหากใครเอาไป มันจะต้องตายในสามวันเจ็ดวัน คืนนั้นคุณแม่พัดเลยพาพัดกลับบ้าน
เช้ามาที่บ้านก็คุยกันว่าจะเอายอดชฎาไปจำเริญ แม่คุณเคนก็อาสานำยอดชฎาพร้อมทั้งเครื่องบายศรีไปจำเริญที่แม่น้ำเจ้าพระยา ในตอนนั้นน้ำไหลแรงมาก เครื่องบายศรีทุกอย่างลอยไปตามน้ำหมดยกเว้นยอดชฎาอันนี้ ซึ่งยังลอยนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน แม่ก็เลยโดดลงน้ำไปเก็บยอดชฎากลับมาไว้ที่บ้าน
แม่บอกว่าพอตอนเอายอดลงน้ำไปแล้ว เงาที่สะท้อนในน้ำเห็นเป็นยายทวด แล้วมีเสียงหนึ่งดังแว่วอยู่ข้างหูว่า ถ้ามึงไม่อยากตายก็ลงไปเก็บ แล้วเอากลับบ้านซะแม่ตกใจเลยโดดลงน้ำไป แล้วรีบเก็บยอดชฎากลับบ้านทันที
ผ่านไปสองวัน แม่พัดก็โทรมาบอกที่บ้านว่า พัดเสียแล้ว! ก่อนหน้านั้นพัดนอนพูดแต่จังหวะรำไม่หยุด จ๊ะ โท่ง จ๊ะ ทิง โจ่ง ขนาดไปโรงพยาบาลก็ทำท่าจะรำตลอดเวลาจนต้องมัดไว้กับเตียง คืนก่อนที่พัดจะตายแม่ไปที่โรงพยาบาล แม่เปิดเข้าไปก็เจอเงายายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนอกพัด แล้วหันมาหัวเราะด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก ฮิ ฮิ ฮิ และพัดก็สิ้นลมลงในที่สุด
หลังจากนั้นมาที่บ้านก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับชฎายอดนี้ เพราะคนในบ้านเจออาถรรพ์หนักขึ้นเรื่อย ๆ เกิดไฟไหม้บ้าง โดนคนยิงเข้ามาในบ้านบ้าง รอยเท้าที่เกิดขึ้นหน้าโต๊ะหมู่ก็มีลักษณะเปื้อนโคลน รูปถ่ายยายทวดที่ปกติจะยิ้มแย้มก็จะกลายเป็นบูดบึ้งในบางเวลาที่มองไป จนญาติพี่น้องที่เคยอยู่ในบ้านต้องแยกย้ายกันอยู่ ต่อมาได้ไม่นานบ้านหลังนั้นก็ถูกรื้อไปในที่สุด
ปัจจุบันชฎายอดนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
ชุมชนผี Ghost LKO88

กดแชร์บทความ