เราต้องขอแนะนำตัวก่อน เราชื่ออั้ม เป็นคนกรุงเทพ แต่ด้วยความเป็นเด็กมหาลัย และเป็นคนชอบเที่ยวมาก จึงไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยๆ คนเดียว
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของตอนเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเราได้ไปเที่ยวที่เชียงใหม่ ตอนแรกเราวางแผนจะไปที่นั้นสองคืน สามวัน จึงติดต่อกับเพื่อนไว้ ชื่อแป้ง คือแป้งเป็นเพื่อนสมัยมัธยม แต่มาเรียนต่อที่เชียงใหม่ ซึ่งเรากับแป้งสนิทกันมาก เลยขอไปอยู่ด้วยซะเลย ฮ่าๆๆ
เรามาถึงที่เชียงใหม่ตอนบ่ายๆ ซึ่งก็ให้แป้งมารับที่สถานีรถไฟ จากนั้นแป้งก็ชวนเราไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ แถวหน้ามอ คุยเรื่อยเปื่อยถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบ ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี แป้งเล่าว่า ตอนนี้พักอยู่กับรูมเมทชื่อมด มดเป็นคนเชียงใหม่เรียนคณะเดียวกัน แต่ช่วงนี้นางมีปัญหากับแฟน ทะเลาะกันเป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่เราก็โอเคไม่มีปัญหาหรอก มาอยู่แค่สองคืนเอง
ตกเย็นหลังจากที่เราทานหมูกระทะกับแป้งเสร็จ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนจึงโทรถามมดว่าตอนนี้อยู่ไหนทำอะไรอยู่ คำตอบที่ได้คือ อยู่ที่ห้องเหมือนเดิม ฝากซื้อข้าวกับยาพารามาให้ด้วยละกัน เรากับแป้งก็เลยไปซื้อข้าวซื้อยาพารา ระหว่างทางแป้งบอกกับเราว่า เวลานางทะเลาะกับแฟนนางเป็นแบบนี้ นางจะชอบนอนซมอยู่ในห้อง แต่อย่าไปกังวลเลย ซักพักมันก็ดีกันเอง กูชินละ
เมื่อเรากับแป้งมาถึงที่ห้องก็พบว่ามด นางนอนอยู่ที่เตียงเขี่ยโทรศัพท์ไปมาอยู่บนที่นอน จากนั้นแป้งก็แนะนำเราให้กับมดว่าคืนนี้จะมานอนด้วย ซึ่งมดก็ไม่มีปัญหา จากนั้นแป้งก็จัดเตรียมที่นอนให้เรา
ในห้องของแป้งถือว่าไม่ใหญ่มากแต่ก็พออยู่ได้ ในห้องก็จะมีเตียงใหญ่ๆ หนึ่งเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแป้ง ข้างนอกเป็นระเบียงเป็นประตูกระจกกั้นไว้ ซึ่งบอกก่อนว่าระเบียงข้างนอกห้องสวยมาก เห็นวิวดอยสุเทพชัดแจ่วเลย ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ถัดจากประตูกระจกลานเลื่อนก็จะเป็นห้องน้ำ โดยรวมถือว่าน่าอยู่เลยทีเดียว
เราก็รีบอาบน้ำอะไรเสร็จสรรพ เพราะความเหนื่อยจากการเดินทางจึงทำให้เราง่วงมาก เรานอนพอดีกับประตูกระจกบานเลื่อนของระเบียงห้องซึ่งไม่ได้ปิดผ้าม่านเอาไว้ เราก็ปลุกนาฬิกามือถือเอาไว้ตอนตีห้า เพราะเราวางแพลนว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวดอยสุเทพในตอนเช้า
ตอนตีห้าที่มือถือได้ตั้งปลุกดังขึ้น ด้วยความงัวเงียในตอนเช้าเราก็ลืมตาขึ้นมาไปมองที่ระเบียง ในจังหวะนั้นเองเราเห็นเหมือนว่ามีใครโดดลงมา ห้องของแป้งซึ่งอยู่ชั้นสาม ซึ่งหอพักมีอยู่ทั้งหมดห้าชั้น ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกไปที่นอกระเบียงกลัวว่าจะมีคนโดดตึก แต่กลับไม่พบอะไรเลย ก็คงตาฝาดไปเองละมั้งเราก็คิดในใจ
หลังจากเราอาบน้ำเสร็จเราก็ปลุกแป้งให้ไปอาบน้ำ เพื่อจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นทัน หลังจากที่เรากับแป้งเตรียมพร้อมกันเสร็จแล้วเราก็รีบออกมาจากห้องโดยทันที ทิ้งไว้ให้มดอยู่ที่ห้องคนเดียว (เนื่องจากมดนางไม่สบายนางเลยไม่ไปไหนทั้งนั้น เมื่อคืนเราก็ชวนนางไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันแล้วหลายรอบ)
หลังจากที่เรากับแป้งไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ สายๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์ต่อ แล้วตอนบ่ายก็เข้ามาเที่ยวในมหาลัย จนตอนเย็นเรากับแป้งก็เลยตกลงว่าจะไปเที่ยวผับกัน จึงต้องกลับไปที่ห้องของแป้งเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดสำหรับการไปเที่ยวคืนนี้ เมื่อมาถึงห้องก็พบว่ามดยังนอนซมอยู่ที่ห้องเขี่ยมือถือไปมาอยู่
ตอนนั้นแป้งเข้าไปอาบน้ำก่อน ระหว่างนั้นมดก็บอกกับเราว่า กูเครียดว่ะ ทำไมชีวิตต้องมาเจอคนเฮงซวยอย่างนี้ด้วย จากนั้นนางก็ร้องไห้โฮออกมา กูไม่อยากให้แป้งไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องที่ทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ เพราะแค่เรื่องการเรียนอีแป้งมันก็เครียดมากพอตัวอยู่แล้ว เราก็ได้แต่ปลอบใจนางแหละ เพราะเรารู้เพียงแค่ว่านางมีปัญหาเรื่องทะเลาะกับแฟน เอาน่าชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ใครมันจะไปเจอกับเรื่องร้ายๆได้ตลอดป่ะว่ะ เราพยายามบอกให้นางอดทนเข้าไว้
หลังจากแป้งอาบน้ำเสร็จเราก็เข้าไปอาบน้ำต่อ และก็เดินทางไปที่ผับแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เราไปกับแป้งสองคน เพราะมดนางคงไม่อยากไปไหน แป้งบอกกับเราว่า ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยนางไปเถอะ กูชินละ เชื่อเหอะซักพักแฟนมันคงมาง้อแหละ อย่าไปคิดมากไปเที่ยวกันดีกว่า หลังจากไปเที่ยวที่ผับจนประมาณตีหนึ่งกว่า
เรากับแป้งได้กลับมาที่ห้อง พบว่าห้องถูกล็อคกลอนจากด้านในจึงให้เปิดเข้าไปในห้องไม่ได้ แป้งจึงเคาะประตูหลายที่ แต่ก็ไม่มีใครมาเปิด ได้ยินเสียงเพียงแค่เก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนมีคนลุกแต่ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ แป้งจึงโทรหามดด้วยความเป็นห่วง
เสียงโทรศัพท์ของมดดังขึ้นในห้องแต่ไม่มีคนรับสาย แป้งจึงตะโกนเรียกมดและเคาะประตูเสียงดังมาก จนข้างห้องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ในระหว่างนั้นภายในห้องมีเสียงของตกลงมา เสียงประตูห้องน้ำปิดเปิด เสียงประตูกระจกบานเลื่อนหลังห้องถูกเลื่อนไปมา
แป้งจึงบอกให้เราไปตามยามที่ข้างล่างให้หน่อย ส่วนตัวแป้งเองจะปีนระเบียงจากห้องข้างๆ เพื่อเข้าไปในห้องของตัวเอง
เราก็รีบวิ่งไปตามยามที่ด้านล่าง จนมาเจอยามแล้วเราก็อธิบายว่าเพื่อนเราอยู่ข้างในห้องไม่ยอมเปิด แล้วกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี ขอให้ช่วยขึ้นไปดูให้หน่อย ในขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปตรงบันไดชั้นที่หนึ่ง เราก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง อ้าว อั้มกลับมาแล้วเหรอ อีแป้งอยู่ไหนล่ะ เมื่อเราหันกลับไปดู พบว่ามดอยู่ด้านหลัง มด แกไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ เราถามด้วยความสงสัย ป่าวนี่ เมื่อกี้แฟนเรามาหา ตอนนี้เราดีกันล่ะ เราเลยออกไปหาไรกินกับแฟน เพิ่งจะกลับมาเนี่ย แต่ดันลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในห้องเลยไม่ได้บอกไว้ก่อน มดตอบ
อ้าวแล้วใครอยู่ในห้อง!
ตอนนั้นเราวิ่งตาตื่นจนขึ้นไปถึงที่ห้อง พบว่าประตูห้องถูกเปิดออก แต่แป้งดันไม่อยู่ที่ห้อง เราจึงได้ไปเคาะห้องข้างๆ ที่แป้งขอเข้าไปเพื่อปีเข้าห้องตัวเอง จากนั้นห้องข้างๆ ก็เปิดประตู และพบว่าแป้งมีอาการตัวสั่นและหวาดผวา เรากับมดถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่พูดว่า ไม่อยู่แล้ว ไม่อยู่ที่นี่แล้ว ขอไปอยู่ที่อื่นได้ไหม กูกลัว พร้อมกับร้องไห้ออกมา
เพื่อนข้างห้องได้บอกกับเราว่าเมื่อกี้ตอนที่เพื่อนของเรากำลังปีนข้ามห้องไป ตอนนั้นเขาก็ช่วยจับเพื่อนเราไว้ กลัวว่าเพื่อนของเรามันจะตก ตอนที่เพื่อนขอเรากำลังชะเง้อหน้าข้ามกำแพงเข้าไปในห้องของตัวเอง ตอนนั้นน่ะเพื่อนของเราก็เหมือนตกใจอะไรซักอย่าง กลับเข้ามาที่ห้องนี้ทันที ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
สุดท้ายมดจึงบอกว่า งั้นไปนอนที่หอแฟนของมดก่อนก็ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้ามาใหม่ รอให้สติของอีแป้งมันกลับมาค่อยถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น
จนเช้าของอีกวันหนึ่งที่หอของแฟนมด แป้งมันก็ยอมเล่าว่าเมื่อคืนมันเจออะไร ตอนนั้นก็เป็นห่วงอีมดมากว่ามันจะทำอะไรโง่ๆ กูก็เลยขอคนที่อยู่ข้างห้องจับตัวกูประคองข้ามกำแพงให้หน่อย แต่ตอนที่กูเอาหัวชะโงกเข้าไปดูที่ห้อง ในห้องมีเพียงไฟจากโต๊ะแป้งสลัวๆ เปิดไว้ ตรงกลางห้องกูเจอคนยืนอยู่ไม่ใช่อีมดแน่ๆ เป็นผู้หญิงตัวสูงผมยาว ใส่เสื้อสีขาว ที่กูเห็นเขาหันหน้าเข้าไปที่โต๊ะแป้ง  จากนั้นเขาก็หันหน้ามาหากู จังหวะนั้นกูสติแตกไปเลย กูยังจำใบหน้านั้นได้ดี รอยยิ้มฉีกกว้าง ปากสีแดง นัยตามีแค่สีขาว กูไม่อยากกลับไปหอนั้นอีกแล้วว่ะ กูกลัว
หลังจากวันนั้นเรากลับมากรุงเทพ เราติดต่อไปหาแป้ง แป้งบอกว่าแป้งกับมดย้ายออกหอเลยตั้งแต่วันนั้น แป้งไม่สามารถอยู่ที่ห้องนั้นได้จริงๆ และแป้งก็เกรงว่าใครที่จะเช่าห้องนั้นต่อก็คิดดีๆ หน่อยละกัน
ขอขอบคุณที่มา : พันทิปดอทคอม
ติดตามอ่านเรื่องสยองขวัญต่อได้ที่
คลังสยอง

กดแชร์บทความ