เรื่องนี้เป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
เรื่องมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งได้ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตของเขาซื้อที่ดินห้าไร่ท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อจะปลูกผลไม้ขาย เขาสร้างบ้านเล็ก ๆ ไว้ในสวนและอยู่อย่างสันโดษ หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพเขาก็ไม่รอช้า คว้าจอบเสียมขุดหลุมปลูกกล้วยน้ำว้า ในขณะที่ขุดไปได้สักพัก อยู่ ๆ จอบก็กระแทกกับบางอย่างเสียงดัง แกร๊ง! เขาเอามือเกลี่ยดินบริเวณนั้นออกก็ได้พบกับบางอย่างคล้ายรูปปั้นสีดำ
เขาจึงขุดมันขึ้นมา ลักษณะรูปปั้นเป็นชายหัวล้าน อ้วนลงพุง มือสองข้างแตะอยู่ที่ท้อง สีดำทมิฬ ดวงตาสีแดงก่ำ แต่ที่ชวนสยองสุด ๆ คือ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่กลับชวนให้ขนลุก ในปากคล้ายมีเขี้ยวซี่เล็ก ๆ เรียงรายอยู่ มีคราบสีออกน้ำตาลที่มุมปากคล้ายเลือดที่แห้งกรัง
มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาเลยรีบนำมันไปให้พระที่วัด พอหลวงพ่อรูปหนึ่งเห็นรูปปั้นประหลาดนั้นก็มีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด รีบตะโกนเรียกเด็กวัดให้ตามพระรูปอื่นมาทันที ชายหนุ่มสงสัยเลยถามออกไปว่า รูปปั้นนี้มันมีอะไรรึเปล่าครับ หลวงพ่อจึงตอบด้วยเสียงที่สั่น ๆ ว่า
เดี๋ยวเสร็จพิธีแล้วอาตมาจะเล่าให้ฟังทีหลัง ตอนนี้ต้องรีบแล้ว
ชายหนุ่มเริ่มใจไม่ดีเลยยอมทำตามที่หลวงพ่อบอกและเก็บความสงสัยไว้ในใจ
เวลาประมาณห้าโมงเย็น พระท่านขอช่วยให้เขาเอารูปปั้นใส่เข้าไปในเมรุเผาศพ แล้วพระท่านก็เริ่มทำพิธี ลักษณะดูคล้ายงานศพแต่บทสวดมันฟังดูแปลก ๆ พิกล
เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ หลวงพ่อก็มาเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง
รูปปั้นนี้มันเป็นของเขมรโบราณ ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า เทวรูปกินคน! ไม่มีใครเจอมาหลายสิบปีแล้ว โยมนี่มันซวยจิง ๆ
เขาหน้าซีดหลังจากได้รู้ชื่อที่ชวนสยองของรูปปั้นประหลาดนี้ แล้วหลวงพ่อก็หยิบยันต์ให้ แล้วบอกกับเขาว่า ยันต์นี้จะช่วยบังตาไม่ให้มันเห็นตัวโยม พิธีนี้ทำได้แค่ขับไล่มันไป แต่ไม่นานมันก็จะกลับมา เดี๋ยวอาตมาจะตามหมอเขมรมาสะกดมันไว้ ระหว่างนี้โยมต้องพกยันต์ไว้ตลอดห้ามให้ห่างตัว แล้วที่สำคัญห้ามทำเลือดหยดลงพื้น มันจะตามกลิ่นเลือดโยมจนเจอ!
ชายหนุ่มกลับมาบ้านด้วยใจที่ไม่สู้ดีนัก เขานอนไม่หลับ จนกระทั่งเวลาห้าทุ่มกว่า ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคล้ายวัวควายร้องโหยหวนอย่างทรมาน เขาสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบไป เขาผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้า
จนตื่นขึ้นอีกทีตอนเช้า เขาพยายามลืมเรื่องเมื่อวานแล้วตั้งใจทำสวนต่อไป พอตกบ่ายเขาก็อาบน้ำเตรียมไปตลาดนัดใกล้ ๆ บ้าน ขณะเดินซื้อของเขาก็ได้ยินแม่ค้าในตลาดจับกลุ่มพูดคุยกันเรื่องเสียงวัวควายร้องเมื่อคืนนี้ จับใจความได้ว่า มีบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเราที่เขาเลี้ยงวัว เมื่อเช้ามีคนไปเจอ วัวตายยกฝูง ท้องโดนเจาะเป็นรู เครื่องในถูกควักออกไปหมด ซ้ำร้ายเจ้าของบ้านก็ตายยกครัวในสภาพเดียวกัน คือนอนตายท้องกลวงโบ๋
ชายหนุ่มได้ยินก็เลยแทรกถามขึ้นว่า แล้วใครเป็นคนทำพอจะรู้ไหมครับป้า แม่ค้าอ้ำอึ้งแล้วตอบไปว่า
เค้าลือว่าเป็นเทวรูปกินคนที่เคยอาละวาดที่หมู่บ้านอื่นเมื่อหลายสิบปีก่อน ตายกันยกหมู่บ้านจนตอนนี้กลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว อาจดูเหลือเชื่องมงายนะพ่อหนุ่ม แต่มันเกิดขึ้นจริง ๆ สมัยป้ายังสาว ๆ เคยมีหมอผีมาสะกดวิญญานแล้วฝังเอาไว้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าฝังไว้ที่ไหน นี่คงมีใครทะลึ่งไปขุดเจอเข้ามันเลยตื่นขึ้นมาอีกแน่ ๆ
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็หน้าซีด แขนขาชา จนแม่ค้าถามว่า เป็นอะไรรึเปล่าพ่อหนุ่ม ชายหนุ่มพยายามตั้งสติ แล้วตอบกลับไปว่า มไม่เป็นไรครับป้า จากนั้นเขาก็รีบกลับบ้านทันที
ในคืนนั้นเอง ขณะที่เขากำลังจะเคลิ้มหลับ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องปนเสียงหัวเราะ มันดังก้องจนน่าขนลุก เขาหวาดกลัวและระแวงอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาเลยขอพิสูจน์ให้แน่ใจ เขาเดินไปที่หน้าต่างแล้วแง้มม่านออกเล็กน้อย เมื่อมองออกไปจะเห็นทางเข้าสวนที่เป็นถนนลูกรังและมีไฟถนนส่องสว่างอยู่ดวงหนึ่ง ห่างออกไปจากตัวบ้านไม่ไกลนัก
เมื่อกวาดสายตามองออกไป ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาแทบสิ้นสติ เขาเห็นมัน! ร่างดำทะมึนนั่น มันเดินวนไปมาคล้ายกำลังหาอะไรบางอย่าง หรือมันกำลังตามหาคนที่ปลุกมันขึ้นมา! ในใจคิดพลางจ้องตาไม่กะพริบ
แล้วทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นมันหันมองมาทางเขา แสงไฟทำให้เห็นรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง เขี้ยวที่เรียงรายเปื้อนไปด้วยคราบเลือด เขาผละออกมาจากหน้าต่างทันที คิดในใจหรือมันจะรู้ว่าเราอยู่นี่’ เสียงกรีดร้องพร้อมเสียงหัวเราะอันแหบแห้งที่น่าขนลุกดังขึ้น เสียงที่ได้ยินดูใกล้กว่าเดิมมาก ราวกับว่ามันมายืนอยู่ตรงหน้าต่างแล้ว
ชายหนุ่มทนฟังเสียงโหยหวนที่ชวนสยองนั้นทั้งคืน จนใกล้สว่างเสียงนั้นก็เงียบหายไป
พอตะวันขึ้นเขาก็ไม่รอช้ารีบตรงดิ่งไปที่วัด ในวัดขณะนี้เหมือนกำลังมีงานศพอยู่ เขาตรงเข้าไปหาเด็กวัดคนหนึ่งแล้วถามหาหลวงพ่อ แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาแทบช็อก!
หลวงพ่อมรณภาพไปตั้งแต่คืนทำพิธีแล้วครับ
เด็กวัดเล่าว่า หลังจากเสร็จพิธีกลางดึกคืนนั้น หลวงพ่อเป็นห่วงคนที่บ้านท่าน เลยคิดจะเอายันต์ไปให้ แต่พอเช้ามากลับพบร่างท่านนอนแน่นิ่งอยู่ริมทาง ย่ามที่ใส่แผ่นยันต์ก็ลอยอยู่ในคลองใกล้ ๆ บ้านหลังที่ตายยกครัวที่แม่ค้าในตลาดพูดถึง ก็คือบ้านพี่น้องของหลวงพ่อท่านเอง
ชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้นถึงกับทรุด พระรูปหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขา ชายหนุ่มไม่รู้จะไปพึ่งใครเลยเล่าทุกอย่างที่เขาพบเจอมาทั้งหมดตั้งแต่คืนแรก รวมถึงเรื่องที่ได้ยินที่ตลาดให้พระรูปนั้นฟัง พระท่านก็บอกกับเขาว่า
ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้หรอกโยม จนกว่าหมอเขมรจะมา แต่ตราบใดที่ยังพกยันต์ไว้มันจะช่วยบังตาเทวรูปให้มองไม่เห็นเรา ทำใจให้สบายเถอะโยม
ชายหนุ่มกลับบ้านด้วยความอ่อนเพลีย เพราะแทบจะไม่ได้นอนเลยทั้งคืน บวกกับอาการหวาดกลัวกับสิ่งที่เจอมาทั้งหมด มันก็ทำเอาเขาแทบบ้า แต่อย่างน้อยยันต์ก็ช่วยให้เขาอุ่นใจขึ้น
หมู่บ้านที่เคยเห็นคนออกมาทำไร่ทำสวนกันอย่างคึกคัก ตอนนี้ไม่ต่างจากหมู่บ้านร้าง ทุกคนเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน ชายหนุ่มก็เช่นกัน
หลายวันต่อมา หมอผีเขมรก็เดินทางมาถึงหมู่บ้าน หมอผีตรงไปที่บ้านชายหนุ่มตามคำบอกเล่าของพระที่วัด แต่ไร้ซึ่งวี่แววคนอยู่ หมอผีจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในสวนซึ่งมีหญ้าขึ้นรกสูงเกือบถึงหัว หมอผีได้พบเข้ากับตอไม้ที่เปื้อนเลือดพร้อมกับรอยเท้าของคน เขาจึงตามรอยเท้านั้นไป
แล้วหมอผีก็พบเข้ากับร่างของชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่ง ตาถลนออกจากเบ้า บริเวณท้องกลวงโบ๋ และที่น่าสยองที่สุดก็คือ เทวรูปนั้นมันอยู่ในท้องเขาแทนที่จะเป็นเครื่องในตับไตไส้พุง ใบหน้าของมันแสยะยิ้มอย่างสยดสยองและเปียกโชกไปด้วยเลือด มันนอนอย่างสบายใจในท้องของชายหนุ่มราวกับว่าพึ่งอิ่มเอมกับอาหารมื้อใหญ่
หมอผีไม่รอช้าร่ายคาถา แล้วค่อย ๆ เอามือควักมันออกมาจากท้องของชายหนุ่ม แล้วเอามันใส่เข้าไปในย่ามใบใหญ่ที่กำกับด้วยอาคม จากนั้นชาวบ้านก็มาช่วยกันทำพิธีสะกดวิญญาน จบพิธีเด็กวัดคนหนึ่งเกิดสงสัยบางอย่างจึงเอ่ยถามหมอผีว่า
อาจาร์ยครับ พี่ชายคนนั้นเขาก็พกยันต์ แต่ทำไมถึงยังโดนตามจนเจอล่ะครับ
หมอเขมรจึงให้คำตอบไปว่า ชายหนุ่มคงกลัวเสียงของเทวรูปผีมากจนทำให้สติแตกแล้ววิ่งหนีออกจากบ้าน แต่ดันพลาดท่าล้มไปถูกตอไม้ทิ่มเอาจนเลือดออก พอไอ้เทวรูปมันได้กลิ่นเลือดก็เลยตามมาจนเจอตัวเขา
เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากพระรูปนั้น ผู้ซึ่งได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดของชายหนุ่มก่อนที่เขาจะตาย ที่ดินตรงนั้นถูกปล่อยทิ้งร้างนานหลายสิบปี จนถึงรุ่นหลานที่เป็นลูกของน้องสาวชายหนุ่มคนนั้น ที่ได้เข้ามาทำสวนทำไร่ในที่ดินของชายหนุ่ม และทำสืบต่อกันมาอีกหลายรุ่น
จนถึงตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของผม ใช่ครับ ผมมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือนแล้วแต่ยังไม่เจออะไร แต่ก่อนจะมาปู่ผมกำชับหนักหนาว่า
ท้ายสวนจะมีโพรงใต้ดิน ปากโพรงจะมีไม้ตอกกั้นไว้คล้าย ๆ คอกเล็ก ๆ ตรงนั้นไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามไปยุ่งเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเป็นแบบปู่ทวด
ซึ่งแน่นอนครับ ยันต์ที่ว่านั่นผมก็มีเก็บไว้กับตัว ผมมาอยู่ที่นี่สามเดือนแล้วครับ ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร จนกระทั่งคืนก่อนผมได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากท้ายสวน คืนนี้ก็เช่นกัน ตอนนี้เวลาตีห้าแล้วผมยังไม่ได้นอนเพราะเสียงที่น่าขนลุกนั่น มันดังจนทำให้ผมไม่กล้าแม้จะข่มตาหลับ ในขณะที่ผมเขียนถ่ายทอดเรื่องราวนี้ ผมก็ยังได้ยินเสียงมันอยู่
ขอขอบคุณที่มา: เทวรูปกินคน

กดแชร์บทความ