สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ ค่ำคืนนี้ก็มีเรื่องมาเล่ากันอีกเช่นเคย บอกก่อนเลยนะคะ ว่าเรื่องนี้อาจต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านเพราะเป็นประสบการณ์อันเหลือเชื่อและเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
คุณย่าจำรัส ในวัยแปดสิบเจ็ดปี ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของท่านให้เราฟัง
คุณย่าจำรัสพื้นเพท่านเป็นคน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี แต่ไปแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่ จ.พิจิตร พ่อแม่สามียกบ้านพร้อมที่ดินให้ผืนหนึ่ง อยู่ในอำเภอที่มีเขตติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ดินผืนนี้มีอาณาเขตประมาณสามไร่ ตัวบ้านปลูกอยู่บริเวณด้านซ้ายของที่ดิน
ส่วนด้านขวาจะปลูกต้นกล้วยตานีเรื่อยลงไปจนติดเชิงเขา ด้านหลังสวนกล้วยตรงตีนเขา มีบ่อน้ำอยู่บ่อหนึ่ง เป็นบ่อน้ำลึกหลายสิบเมตร ไม่ได้ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่ไฟฟ้าน้ำประปาเข้าถึง บ่อน้ำท้ายสวนกล้วยก็หมดบทบาทลงไป
ที่ตีนเขามีกระท่อมอยู่หลังหนึ่ง มีพี่สาวของสามีคุณย่าจำรัสอาศัยอยู่ ชื่อว่า คุณย่าเจียม ย่าเจียมแกสติไม่ดี วันๆ แกเอาแต่หัวเราะ บางทีก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บางทีก็กรีดร้องแล้ววิ่งไปเกาะขอบบ่อน้ำ บางทีก็พร่ำเพ้อถึงแต่ผีสาง คุณย่าแกก็กลัวไม่อยากไปยุ่งด้วย เห็นแต่สามีคอยเอาข้าวเอาน้ำไปส่งให้ตอนเช้ากับเย็น
แกเคยถามสามีถึงเรื่องที่ทำให้ย่าเจียมแกต้องเสียสติแบบนี้ สามีแกก็เลยเล่าให้ฟังว่า ตอนย่าเจียมเป็นสาว ย่าเจียมเป็นคนสวย มีผู้ชายมาติดพันมากหน้าหลายตา ล้วนแล้วแต่เป็นคนมีฐานะดีทั้งสิ้น แต่ด้วยเหตุผลใดไม่อาจทราบได้ ย่าเจียมแกกลับมิได้ทำตัวให้มีคุณค่าสมกับรูปลักษณ์หน้าตาอันงดงามเพียบพร้อมของแก แกกลับทำตัวตกต่ำคบแต่นักเลงสุรา นักเลงหัวไม้ คบพวกอันธพาลคอยเกะกะระรานเขาไปทั่ว
ย่าเจียมในวัยสาวแรกรุ่น ต้องหมดคุณค่าลงเพราะทำตัวเกกมะเหรกเกเร กินเหล้าเมายา ไม่ผิดกับนิสัยของผู้ชาย ต่อมาไม่นานย่าเจียมก็ท้อง ท้องโดยมิรู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก แต่ย่าเจียมแกก็ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อน แกก็ยังคบเพื่อนกินเหล้าสรวลเสเฮฮา ดูเหมือนแกมิได้ยินดียินร้ายกับหนึ่งชีวิตอันบริสุทธิ์ที่กำลังจะเกิดมา
แกก็ทำตัวของแกยังงั้น จนครบกำหนดคลอด สมัยเมื่อห้าสิบถึงหกสิบปีที่แล้วพิจิตรยังไม่เจริญ โรงพยาบาลสถานอนามัยต่างๆ ก็ยังอยู่ไกล รถราก็หายาก ย่าเจียมแกเจ็บท้องคลอดอยู่สองคืน กว่าแกจะคลอดได้ แกก็คลอดหมอตำแยนั่นแหละ วันที่แกจะคลอดแกก็ยังกินเหล้าไม่ขาดปาก อย่างกับแกไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย
แกคลอดลูกสาว แกคงจะรักลูกดุจแม่อันประเสริฐทั่วไป หากลูกสาวแกมิได้เกิดมาอย่างพิกลพิการ
ลูกแกเกิดมามีแขนซ้ายลีบเล็ก นิ้วมือทั้งห้าใช้งานไม่ได้ คงเป็นเพราะที่แกติดเหล้า ลูกแกเลยออกมาไม่สมประกอบ แกกินเหล้าตั้งแต่ท้องอ่อนจนท้องแก่ ลูกแกคงไม่ได้รับสารอาหารอย่างสมบูรณ์ ตัวอ่อนในครรภ์จึงเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ แกตั้งชื่อลูกแกว่า หลง แกคงจะหมายถึงที่มันหลงมาเกิดนั่นแหละ แกก็เลี้ยงลูกตามประสาของแกไป แต่เด็กหลงดูเหมือนจะมีพัฒนาการทางสมองช้า อายุสี่ถึงห้าขวบแล้ว แต่ยังพูดได้แค่คำสั้นๆ
แกไม่ได้ใส่ใจเลี้ยงลูกเท่าใดนัก แกก็ยังกินเหล้าเมามายเหมือนเดิม ไม่ค่อยสนใจหาข้าวหาปลาให้ลูกกิน ตากับยายมาขอหลานไปอยู่ด้วยแกก็ไม่ให้ ใครมายุ่งกับแก แกด่ากราดหมด แกว่ามีแต่คนสมน้ำหน้าแก เยาะเย้ยแกที่แกท้องไม่มีพ่อ วันนั้นย่าเจียมแกเมามากหลับไปตอนไหนไม่รู้ ปล่อยเด็กหลงไว้คนเดียว เด็กมันก็วิ่งเล่นของมันไปเรื่อยเปื่อย วิ่งเล่นไปจนถึงท้ายสวนกล้วยเชิงเขา แล้วเด็กหลงก็หายไป
ย่าเจียมแกตื่นขึ้นมาตอนเช้าไม่เห็นลูก แกก็ออกตามหา หายังไงก็หาไม่เจอ ตอนแรกแกคิดว่าตากับยายมารับหลานไปเล่นด้วยรึเปล่า แกเลยไม่สนใจ จนบ่ายคล้อย แกเลยลองไปถามที่บ้านตากับยาย ปรากฏว่าเด็กหลงไม่ได้อยู่ที่นั่น เลยตามหากันจ้าล่ะหวั่นทีนี้ ตากับยายใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลัวหลานจะตกบ่อร้างหลังสวน จึงพากันรีบวิ่งไปดู
พอถึงบ่อร้างก็แทบทรุด เพราะมองเห็นรองเท้าเล็กๆ กับของเล่นที่หลานชอบเล่นหล่นอยู่ริมขอบบ่อ ตากับยายร้องไห้น้ำตาไหลปานสายเลือด รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเกณฑ์คนมาช่วย ด้วยความที่บ่อลึกมากการช่วยเหลือจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ตากับยายก็ปลงแล้วคิดว่ายังไงหลานก็คงไม่รอด เด็กตกลงไปตั้งแต่เมื่อวานจนผ่านมาอีกวันแล้ว ตากับยายร้องไห้จะเป็นจะตาย ส่วนแม่เด็กเขาก็ดูเฉยๆ ไม่แสดงอาการอะไร
ผู้ใหญ่บ้านแกต้องให้คนไต่เชือกลงไปงมหาเด็ก น้ำไม่ลึกเท่าไหร่เพราะเป็นบ่อร้างมีเศษไม้เศษหญ้า เศษวัชพืชขึ้นปกคลุมอยู่ทั่ว แต่ปัญหาคือบ่อลึกมาก ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน
ก็เป็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้นั่นแหละ เด็กตกลงไปขนาดนั้นไม่รอดแล้ว ตอนเอาศพขึ้นมา คนจะตายเป็นตากับยาย ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ แกสงสารหลานน้อย ยายแกว่า
อีหนู เวรกรรมของเอ็งที่มาเกิดกับยักษ์กับมารหมดเคราะห์หมดโศกเถอะลูกเอ้ย เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้เอ็งมีวาสนาได้เกิดมามีแม่ดีๆ กับเค้า
แกคงสุดจะทนแล้ว แกถึงกับชี้นิ้วด่าย่าเจียมต่อหน้าศพหลานสาว
แม่ให้เอ็งเกิดมาได้ แต่แม่สอนเอ็งให้เป็นคนดีไม่ได้ จากนี้ไปขอให้เอ็งใช้ชีวิตของเอ็ง แม่ไม่อาจบอกสอนเอ็งต่อไปได้อีกแล้ว!
ย่าเจียมแกก็ไม่พูดอะไรซักคำ เสร็จงานศพลูกแก แกก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ทีนี้แกออกเที่ยวหนักคบหาผู้ชายมากหน้าหลายตา จนคนใกล้ชิดที่รู้ถึงพฤติกรรมของแกถึงกับส่ายหัว
แกแต่งตัวสวยเที่ยวเตร่อยู่ได้ประมาณปีเศษๆ แกก็ได้เสี่ยใหญ่คราวพ่อคนหนึ่งคอยเลี้ยงดูปูเสื่อ แต่ไม่เห็นได้มาอยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมีย ชาวบ้านนินทากันสนุกปากว่าแกเป็นเมียน้อยเขา
สามสี่เดือนต่อมาแกก็ท้อง แต่ท้องคราวนี้แกตื่นเต้นมาก ประคบประหงม ดูแลครรภ์เป็นอย่างดี แกเลิกเหล้าเลิกเที่ยว ทำตัวเป็นแม่ที่ดี ไม่รู้ว่าแกคิดได้หรือว่าต้องการใช้ลูกเป็นเครื่องต่อรองเพื่อเรียกร้องเงินทองกันแน่ ก่อนแกจะคลอดแกฝันถึงเด็กหลง ว่าเด็กหลงยืนร้องไห้อยู่ริมบ่อ แล้วพูดซ้ำๆ ว่า แม่ไม่รักหนูแม่ไม่รักหนู
พอถึงกำหนดคลอด แกคลอดลูกชาย คราวนี้ดูแกดีใจมาก ไม่เหมือนตอนที่ท้องเด็กหลงเลย ลูกชายแกก็น่าตาน่ารักน่าเอ็นดู แกหลงรักลูกชายคนนี้จนหมดหัวใจ เสี่ยใหญ่ผัวแกก็คงจะเช่นเดียวกัน คอยแวะเวียนมาหาย่าเจียมอยู่อย่างสม่ำเสมอ
เด็กน้อยโตขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเด็กน้อยก็เล่าให้แม่ฟังว่า มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งมาชวนไปเล่นที่บ่อร้างหลังบ้าน ย่าเจียมแกตกใจเป็นอย่างมาก ด้วยแกกลัวว่าเด็กหลงจะมาเอาน้องไปอยู่ด้วย เพราะพักหลังมานี้แกก็ฝันเห็นแต่เด็กหลงยืนร้องไห้อยู่ซ้ำๆ ซากๆ แกเลยสั่งลูกชายว่า ห้ามไปเล่นที่บ่อร้างหลังบ้านเป็นอันขาด!
กลางดึกคืนหนึ่ง แกตื่นขึ้นมามองไม่เห็นลูกชายนอนอยู่ข้างๆ แกตกใจรีบเปิดไฟตามหาลูกชายตาลีตาเหลือก
บ่อร้าง! แกร้องออกมาไม่ผิดกับคนเสียสติ แล้วรีบลนลานวิ่งไปที่บ่อร้างหลังบ้านทันที
พอไปถึงบ่อร้าง แกเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจับมือลูกชายของแกไว้แน่น แกละล่ำละลักเรียกลูกชายให้ตื่นจากภวังค์ แต่เหมือนเด็กชายไม่รับรู้แต่อย่างใด ตาของเด็กชายยังคงปิดสนิท ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้ม
แม่จ๋า หนูเหงา หนูมาพาน้องไปอยู่ด้วย แม่รักน้อง แม่ไม่เคยรักหนู
ไปเล่นกับพี่เถอะนะ
อย่าาาาาาา!!!
ว่าแล้วเด็กทั้งสองก็พากันกระโดดลงบ่อร้างไปต่อหน้าต่อตา เสียงดังตุ๊บสะท้อนดังก้องบ่อ แสดงถึงความลึกอันยากที่จะหยั่งถึง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้เป็นแม่
กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!
เช้ามาก็มีคนเห็นย่าเจียมวิ่งไปบ้านนั้นที บ้านโน้นที พร่ำพูดแต่ว่า เด็กหลง เด็กผี มันมาเอาลูกข้าไปแล้ว ชาวบ้านเลยพากันมาดู บ้างก็ซุบซิบกันว่า สงสัยประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยล่ะมั้ง หากันอยู่ครึ่งค่อนวันก็เจอศพเด็กชายอยู่ก้นบ่อ ตอนที่ลงไปเอาศพนั้น น้ำในบ่อแห้งหมดแล้ว เหลืออยู่ค่อนขอดแค่ไม่ถึงตาตุ่ม
สภาพศพเด็กชายแหลกเหลว แขนขาผิดรูป เหมือนตั้งใจกระโดดพุ่งหลาวลงไป กะโหลกเปิด มันสมองสีขาวขุ่นปะปนกับสีแดงฉานของเลือดสดๆ ไหลกระจายกลิ่นคาวคละคลุ้ง ดวงตาของเด็กชายปิดสนิท ใบหน้าของเด็กชายยังคงมีรอยยิ้ม ในมือถือของเล่นชิ้นโปรดของเด็กหลง เมื่อครั้งที่เด็กหลงยังมีชีวิตอยู่
พอเห็นศพลูกชาย ย่าเจียมแกถึงกับช็อก ล้มลงหมดสติไปในทันที พอแกฟื้นขึ้นมาแกก็ป้ำ เป๋อๆ กลายเป็นคนเสียสติอย่างเช่นทุกวันนี้
ขอขอบคุณที่มา จากผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Bee Sirinthip
ติดตามอ่านเรื่องสยองขวัญต่อได้ที่ คลังสยอง

กดแชร์บทความ