เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ส่งมาจากคุณเลิฟครับ คุณเลิฟเล่าว่า.. สมัยที่ผมยังเด็ก จำได้ว่าราวๆ ม.1 มั้งครับ ครอบครัวผมมีกันอยู่ 4 คน มีผม แม่ พี่สาว และน้องสาว แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยายผมเสีย แต่ยายได้ทำพินัยกรรมไว้ โดยยกที่ดินให้แม่ผมแปลงหนึ่ง ส่วนสมบัติอื่นๆ ก็แบ่งๆ ให้ป้า ให้น้าไป..
เรื่องมันเกิดตอนที่แม่ผมขายที่ดินแปลงนั้นได้ครับ แม่ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง แล้วป้าผมแกมาขอครึ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ป้าแกไม่มีส่วนในที่ดินนี้เลย แต่แม่ผมก็แบ่งให้นะ แต่ก็ไม่ถึงครึ่งตามที่ป้าขอ ทำให้ป้าแกไม่พอใจ ถึงกับขู่อาฆาตไว้ว่า ‘ครอบครัวมึงจะต้องอยู่ไม่เป็นสุข คอยดูแล้วกัน!’ แล้วป้าแกก็ หายหน้าหายตาไปเลย..
จนเวลาผ่านไปหลายเดือน ทุกคนรวมถึงผมต่างลืมเรื่องที่ป้าขู่อาฆาตไปเสียสนิท และแล้ว เหตุการณ์แปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นกับครอบครัวผม..
คืนหนึ่ง ที่พวกเรานอนหลับกันอยู่ ซึ่งตอนเด็กพวกเรา 3 พี่น้อง จะมานอนรวมกันในห้องแม่ เพราะเป็นห้องใหญ่ มีเตียงใหญ่ ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ ก็ได้ยินเสียงคนบิดลูกบิดประตูห้อง ‘แก๊กๆ’ เหมือนพยายามจะเปิดเข้ามาแต่ติดล็อค ผมเงี่ยหูฟังอยู่พักหนึ่ง แต่เสียงนั้นก็ยังดังต่อเนื่อง
ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่สาวเพื่อจะปลุก แต่พี่สาวผมรู้สึกตัวก่อนแล้ว พี่ทำเสียง ‘ชู่วว’ เบาๆ ไม่ให้ผมส่งเสียงดัง แล้วก็นอนฟังต่อไป จนสักพักใหญ่ๆ เสียงนั้นก็เงียบไป พวกเราก็หลับตามไปด้วย.. พอเช้า ผมกับพี่สาวก็เล่าให้แม่ฟัง แต่แม่ไม่เชื่อครับ บอกว่าหูฝาด คิดมากไปเอง
ทีนี้ในคืนที่ 2 ขณะที่พวกเรากำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ในห้องนอน เสียงลูกบิดประตูห้องก็ดังขึ้นอีก! เหมือนเมื่อคืนเป๊ะเลย คราวนี้ แม่ผมเชื่อสนิทเลยว่าผมไม่ได้หูฝาด แม่ผมลุกจากเตียงจะไปเปิดดู ผมกับพี่สาวก็ห้ามไว้ เพราะกลัวว่าอาจจะเป็นโจร หรือขโมย เดี๋ยวจะโดนทำร้ายเอา แม่เลยรีบปิดโทรทัศน์ ปิดไฟ แล้วให้พวกเราเข้านอนทันที..
ตอนเช้าพวกเราก็มานั่งวิเคราะห์กัน ว่าเสียงนั้นมันคืออะไร? จะว่าโจรขโมย อย่างน้อยมันก็ต้องมีรอยมือ รอยเท้า อะไรบ้าง แต่บ้านก็ยังล็อคแน่นหนา ไม่มีร่องรอยงัดแงะไรเลย หน้าต่างประตูทุกบานปิดสนิทหมด ขนาดหมาแมวยังเข้ามาไม่ได้เลย แถมมีเหล็กดัดอีกชั้นด้วย.. แม่ผมเริ่มมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด และสั่งพวกเราว่า ‘ก่อนนอนให้สวดมนต์ เจออะไรก็อย่าไปทักไปตอบทั้งสิ้น..’
กลางดึกคืนต่อมา ผมก็ได้ยินอีกแล้วครับ ทีนี้ลุกขึ้นมาพร้อมกันหมดเลย มองหน้ากันแบบงงๆ ว่าเสียงอะไรวะ? ในตอนนั้นคือมันโมโหมาก มารบกวนได้ทุกคืน ไม่ได้หลับได้นอน ผมจำได้ว่าในห้องมีมีดดาบยาวๆ เก่าๆ ของพ่ออยู่ ผมเลยหยิบมาไว้กับตัวแล้วเดินไป จะเปิดประตูไปดูให้รู้ๆ ไปเลยว่ามันคืออะไร?
พี่สาวพยายามดึงผมไม่ให้ไป แต่ผมรำคาญแล้วไง มันอะไรกันนักหนา มาบิดลูกบิดอยู่ได้ทุกคืน.. ขณะที่เสียงลูกบิดยังดัง ‘แก๊กๆ’ ตรงหน้าผม ผมก็เปิดประตูออกไปทันที แต่ปรากฏว่ามันไม่มีอะไรอยู่ที่หน้าห้องเลยน่ะสิครับ ถ้าเป็นโจร หรือแมวแอบเข้ามา ผมก็ต้องเห็น ทางซ้ายมือเป็นบันไดทางลงชั้น 1 ขวามือเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 3 แต่ไม่มีเสียงวิ่งขึ้นหรือลงบันไดเลย ทุกอย่างเงียบสนิท!
มันคงไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะหนีได้ไวขนาดนั้น ผมเริ่มประสาทเสีย รีบปิดประตูล็อคแล้วกระโดดขึ้นเตียงเลยครับ ไม่มีใครถาม หรือพูดอะไรกันเลยในคืนนั้น มันเป็นคืนที่อึดอัดที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้..
หลังจากคืนนั้น เหตุการณ์แปลกๆ ก็เกิดขึ้นรัวๆ ติดๆ กัน มีอยู่วันหนึ่ง แฟนพี่สาวมาเที่ยวที่บ้าน ซื้อของมากิน ก็นั่งล้อมวงกินกัน คุยกันไปเพลินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ ‘ฮือๆๆๆ’ คือผมได้ยินก่อน แล้วบอกให้ทุกคนเงียบแล้วลองตั้งใจฟังดู น้องสาวได้ยินเป็นคนต่อมา.. แล้วก็พี่สาว.. แม่.. ตามลำดับ ผมพยายามคิดในแง่ดีว่า อาจจะเป็นเสียงโทรทัศน์จากบ้านอื่นหรือเปล่า? ก็พยายามช่วยกันฟัง แต่มันไม่ใช่ครับ เสียงมันดังอยู่ในบ้านนี่ล่ะ!
พวกเราหยุดกิน และพยายามแยกย้ายกันไปตามหาต้นเสียง เดินเข้าหลังบ้าน หน้าบ้าน แต่แล้วแฟนพี่สาวก็ตะโกนบอกว่า ‘นี่ๆ ได้ยินตรงนี้ชัดมาก!’ พวกเราก็เดินไปดู ลืมบอกไปว่าแฟนพี่สาวคนนี้เขามีเซนส์ในเรื่องพวกนี้ครับ..
แฟนพี่สาวนั่งลงอยู่ที่ตรงหัวบันไดทางขึ้นชั้นลอย แล้วหลับตาอยู่พักหนึ่ง เสียงร้องไห้ทุกคนก็ยังคงได้ยินอยู่ แถมตรงนี้ชัดเจนมาก คือลองนึกภาพว่ามีเสียงคนร้องไห้ดังอยู่ตรงนี้ แต่กลับไม่เห็นใคร ผมนี่ขนลุกเลยครับตอนนั้น น้องสาวเข้าไปกอดแม่แน่น แล้วสัก 5 นาทีได้ แฟนพี่สาวก็ลืมตาขึ้นมา เขาบอกว่า
‘สงสัยว่าจะมีสิ่งไม่ดีอยู่ในบ้านแม่แล้วล่ะ..’
แล้วเขาก็เดินไปหยิบไม้กวาดมา แล้วกวาดตรงบริเวณบันได ปากก็พูดว่า ‘มาทางไหนไปทางนั้น ถ้ายังไม่ไป เดี๋ยวจะแช่งแล้วนะ..’ เชื่อไหมครับ เสียงร้องไห้นี่เงียบหายไปเลย เหมือนโดนกดสต็อปยังไงยังงั้น พวกเราต่างก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
หลังจากนั้น แฟนพี่สาวก็บอกว่า เดี๋ยวเขาจะไปหาหลวงพ่อที่เขานับถือ แล้วจะขอของป้องกันมาให้ คือแฟนพี่สาวเขาเป็นเซลส์ ได้ไปมาทั่วประเทศ เคยพบเห็นสิ่งแปลกๆ มาพอสมควร และก็รู้จักหลวงพ่อที่เก่งๆ เยอะ เขาสั่งพวกเราอีกว่า กลางคืนพยายามอย่าไปไหน หากได้ยินเสียง หรือเห็นอะไรแปลกๆ ก็อย่าไปทัก ให้ทนรอจนกว่าเขาจะไปขอของดีจากหลวงพ่อมาให้ แล้วแฟนพี่สาวก็ขอตัวกลับไป..
หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ ตอนกำลังจะนอน น้องสาวก็ปลุกผมกับพี่สาวขึ้นมา แล้วชี้ให้มองลอดช่องหน้าต่างออกไป สิ่งที่เห็นคือเงาดำๆ 2 เงาครับ สูงประมาณผู้ชาย แต่เงานั้นดำมากๆ แล้วเจ้าเงา 2 เงานั้นมันก็ลอยครับ ลอยสลับไปสลับมาเหมือนคนวิ่งซิกแซก แต่เร็วมากๆ เร็วแบบที่คนปกติไม่มีทางทำได้แน่ๆ มันลอยอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนจะหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเราเลย..
เหตุการณ์แปลกๆ เริ่มเข้ามาอีกเป็นระยะๆ เช่นเวลาพี่สาวอาบน้ำ จะรู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่สาวกำลังอาบน้ำ พอรู้สึกอีก ก็รีบเงยหน้ามองที่ช่องลม เห็นเป็นลูกตาคนมองเข้ามา! พี่สาวนี่กรี๊ดลั่นบ้านเลยครับ..
ยังมีเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ อีกประปราย อย่างได้ยินเสียงคนเดิน คนคุยกัน ที่ชั้นล่างตอนกลางคืน หรือน้องสาวตกบันได โดยที่บอกว่าเหมือนมีคนผลักจากข้างหลัง ส่วนแม่ก็ได้ยินเสียงคนในห้องครัว เสียงรื้อข้าวของ จานชามตกลงมาแตกเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีหนูหรือสัตว์อะไรเข้ามาในบ้าน.. ช่วงนั้นเรียกได้ว่าวิตกจริตกันทั้งบ้าน ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวผมกันแน่ จนกระทั่งแฟนพี่สาวผมกลับมาพร้อมของดี..
จนวันหนึ่งแฟนพี่สาวผมทำงานเสร็จ และแวะมาหาที่บ้านพร้อมกับเอาถุงทรายมาให้ บอกว่านี่คือทรายเสกของหลวงพ่อที่เขานับถือ ให้เอาทรายเสกโรยให้ทั่วบ้าน รอบบ้าน ตามบันได และห้องนอน เพื่อกันสิ่งชั่วร้าย แม่ผมก็ทำตามทันทีครับ โรยทั่วบ้านเลย ส่วนทรายที่เหลือแม่ก็เอาไปโรยที่พื้นในห้องครัว เพราะแม่ผมต้องเข้าครัวบ่อย..
ในคืนนั้นพวกเราก็นอนกันตามปกติ หลับสบายครับ ไม่มีเสียงอะไรมารบกวนเลย แม่บอกสงสัยทรายเสกจะได้ผลดี.. แต่แล้วพอตอนเช้าตื่นลงมาที่ชั้นล่าง พวกเราต้องตกใจสุดขีด เพราะพื้นในห้องครัวที่แม่เอาทรายไปโรยไว้ มันเป็นรอยเท้าคนเหยียบแล้วลากขาไปกับพื้น ลักษณะเหมือนคนขาเสีย หรือขาพิการ เป็นทางยาวๆ จนทรายในห้องครัวเละเทะไปหมด แม่ถึงกับหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด แม่บอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรในบ้าน อยากจะย้ายออกไปหาบ้านเช่าอยู่สักพัก เพราะมันชักเริ่มน่ากลัวขึ้นทุกทีแล้ว..
วันต่อมา หลังจากที่พวกเรากลับจากโรงเรียน แม่บอกหาบ้านเช่าได้แล้ว เป็นของเพื่อนแม่เอง จะย้ายไปอยู่ที่นั่นสักพัก ให้พวกเราไปจัดกระเป๋า เอาแต่ของที่จำเป็น ถ้ามีอะไรขาดเหลือค่อยกลับมาเอา พวกเราเลยแยกย้ายกันไปเก็บของ ขณะที่กำลังเก็บของเพลินๆ ผมก็ได้ยินเสียงพี่สาวร้อง ‘กรี๊ดดดด’ อย่างสุดเสียง เลยรีบวิ่งไปดูพร้อมกับน้องสาว และแม่ ที่ชั้นล่าง
ผมเห็นพี่สาวนั่งอยู่กลางบ้าน นั่งพับเพียบ หัวก้มลงไปจนคางชิดหน้าอก ผมยาวปิดหน้าปิดตาหมด นั่งนิ่งตัวแข็งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อน ผมวิ่งไปเขย่าตัวถามว่า ‘เป็นอะไรๆๆ..’ พี่ก็ไม่ตอบ จนผมเริ่มกลัวละ แม่ก็เข้ามาบีบๆ นวดๆ เขย่าตัวเรียกชื่อพี่สาว แต่พี่ก็ยังคงนั่งแข็งเป็นท่อนไม้ น้องสาวก็กลัวจนร้องไห้.. ผมตั้งสติได้ รีบวิ่งไปเรียกลุงข้างบ้านให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล ลุงแกก็มาช่วยอุ้มพี่สาวขึ้นรถทันที
พี่สาวผมนอนให้น้ำเกลืออยู่โรงพยาบาล 3 คืน แต่ไม่มีอะไรตอบสนองเลย หมอให้ความเห็นว่าเส้นเลือดในสมองแตก อาจต้องเจาะคอเพื่อให้อาหารทางสายยาง แม่ก็ร้องไห้ ขอร้องหมอให้ลองรักษาก่อน แต่หมอก็ไม่รับปากอะไร
จนวันรุ่งขึ้น อยู่ๆ พี่สาวก็ลืมตา ลุกขึ้นมานั่งคุยเหมือนคนปกติ บ่นแต่ว่าหิวน้ำหิวข้าว อยากกินๆ ในตอนนั้นพวกเราดีใจมาก เหมือนปาฏิหาริย์ ขนาดหมอยังงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น? พี่อยู่โรงพยาบาลดูอาการอีก 2 วัน หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้.. พวกเราลืมเรื่องบ้านเช่าไปเลย กลับมาอยู่บ้านเดิม.. แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติอีกเลย เสียงแปลกๆ ที่เคยได้ยิน ก็เงียบไป เหมือนบ้านกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือลางบอกเหตุ เหมือนลมสงบก่อนพายุจะมา..
พี่สาวผมเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยพูดจากับใคร ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน วันๆ เอาแต่นอน ผมกลับจากโรงเรียนมา ยังเห็นพี่สาวนอนอยู่เลย แกนอนทั้งวันครับ แฟนพี่สาวมาหาก็ไม่คุยด้วย แถมไล่กลับอีก ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนผม แม่ผม แฟนพี่สาว เริ่มมาปรึกษากัน
แม่บอกอยากพาพี่สาวไปให้หลวงพ่อที่ให้ทรายเสกมา ดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? แม่ว่ามันแปลกๆ แต่จะบอกตรงๆ พี่สาวคงไม่ไปแน่ ขนาดผมชวนไปห้าง ปกติพี่สาวจะไปทุกครั้ง แต่พักหลังไม่ไปเลย แค่จะเดินออกจากบ้านยังไม่เดินเลย แม่เลยวางแผนไปซื้อยานอนหลับมาผสมใส่น้ำหวานให้พี่สาวดื่ม พอพี่หลับก็อุ้มขึ้นรถไปหาหลวงพ่อเลย
พอถึงวัดหลวงพ่อ พี่สาวก็เหมือนจะได้สติ แกเริ่มโวยวาย ดิ้นในรถ ถีบคนไปทั่ว ผมยังโดนถีบเข้าหน้ามึนไปเลย กว่าจะถึงกุฏิหลวงพ่อเล่นเอาสะบักสะบอม พอดีแฟนพี่สาวตัวใหญ่ เขาจับอยู่ เลยรีบอุ้มเข้าไปในกุฏิเลย พวกลูกศิษย์ 3 คนรีบวิ่งเข้ามาช่วยกันจับพี่สาวไว้ ไม่น่าเชื่อว่าพี่สาวตัวก็ผอมๆ จะดิ้นแรงมาก ถีบผู้ชายตัวโตๆ กระเด็น หลวงพ่อเห็น ท่านคงรู้ว่าเป็นอะไร ท่านลุกมาเลย หยิบขันน้ำมนต์มาราดหัวพี่สาวจนเปียกชุ่ม พี่สาวก็ร้อง ‘กรี๊ดๆๆๆ’ ก่อนจะสงบลง..
หลวงพ่อรีบนั่งสมาธิ แล้วบอกว่า พี่สาวผมโดนของแรงมาก แถมมีถึง 4 ตน มันเริ่มกินตัวแล้ว หากมาช้ากว่านี้ตายแน่นอน..
หลวงพ่อสั่งให้ลูกศิษย์ จับพี่สาวผมนอนลงกับพื้น เอาสายสิญจน์พันมือ พันเท้าไว้ แล้วท่านก็เริ่มสวดมนต์ในบทที่ไม่คุ้นหู แต่เชื่อไหมครับ ขณะที่ท่านกำลังสวด ลมนี่มาจากไหนก็ไม่รู้ อย่างกับพายุหมุนลูกย่อมๆ พัดอยู่หน้ากุฏิ พัดหน้าต่างตีกันเสียงดัง ฝุ่นฟุ้งกระจายเข้ามา หมาในวัดหอนกันเป็นทอดๆ เล่าไปยังขนลุกไปอยู่เลย..
สักพัก พอลมเริ่มสงบ หลวงพ่อท่านก็ลุกขึ้นแล้วหยิบมีดคล้ายๆ มีดหมอขนาดใหญ่ แล้วเดินไปหน้ากุฏิพร้อมกับพูดว่า
‘มาทางไหนไปทางนั้น อย่ามารังแกกัน ไม่งั้นจะเอามีดฟันไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด..’
ผมก็พยายามมองว่าท่านพูดอยู่กับใคร แต่ก็มองไม่เห็น แล้วหลวงพ่อก็กลับมานั่งที่เดิมและบอกกับแม่ว่า ไล่ของไม่ดีออกจากตัวไปหมดแล้ว แต่หลังจากนี้ต้องอาบน้ำมนต์ให้ครบ 7 วัน เดี๋ยวหลวงพ่อจะทำน้ำมนต์ไปให้อาบเองที่บ้าน..
แล้วท่านก็ให้ทรายเสกมาอีกถุงใหญ่ ท่านบอกให้ทำเหมือนเดิม โรยให้ทั่วบ้าน ซัดไปให้ทั่วบริเวณ ไม่ต้องกลัวอะไร ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าทุกอย่างจะปกติ หรือถ้าใครมีอาการอะไรแปลกๆ ก็รีบพามาหาหลวงพ่อโดยด่วน..
พวกเราลาหลวงพ่อกลับมาบ้าน และทำตามที่หลวงพ่อแนะนำอยู่เป็นเดือน ช่วงนั้นที่บ้านนี่เต็มไปด้วยทราย ยังกับบ้านเพิ่งสร้างใหม่ ส่วนพี่สาวก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ กินได้ พูดจารู้เรื่องดี ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง แม่ถามว่ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
พี่สาวบอกไม่รู้อะไรเลย เหมือนหลับแล้วฝันไปเรื่อยไม่อยากตื่น แต่แม่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง กลัวว่าพี่สาวจะคิดมาก.. หลังจากนั้นครอบครัวผมก็หมั่นไปกราบหลวงพ่อท่านทุกอาทิตย์ แล้วก็ทำบุญบ้านครั้งใหญ่ ทุกอย่างก็สงบดีมาจนถึงทุกวันนี้ครับ..
สรุปแล้วคือป้าผมนั่นแหละที่ทำของใส่ พอหลังจากเหตุการณ์นี้จบไป ป้าผมก็โผล่มาหาแม่ แกซมซานมาในสภาพคนหมดตัว ลูกผัวทิ้งหมด เพราะแกเอาเงินมรดกที่ได้ไปผลาญกับการพนัน แกมาหาแม่ผมมาขออยู่ด้วย แม่ผมไม่ได้ให้อยู่ที่บ้านด้วยหรอกครับ แต่แม่ก็ยังใจดีไปเช่าบ้านเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมให้ แถมยังออกค่าเช่าให้อีกต่างหาก..
ขอขอบคุณที่มา: thehouse.online
ติดตามอ่านเรื่องสยองขวัญต่อได้ที่ คลังสยอง

กดแชร์บทความ